วิธีการรักษาเส้นเลือดขอดไม่ต้องผ่าตัด

หากคุณกำลังกังวลกับปัญหาเส้นเลือดขอด เรามีคำตอบให้คุณ

เส้นเลือดขอด หรือโรคที่มีเส้นเลือดโป่งพองสีเขียวคล้ำ ลักษณะคล้ายตัวหนอน คดไปมาตามจุดต่าง ๆ ของร่ายกาย โดยบริเวณที่พบเห็นบ่อยและชัดเจนที่สุดคือบริเวณขา เส้นเลือดขอดที่ขา ทำให้ผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดไม่มั่นใจ ไม่กล้าใส่ชุดที่เห็นขา เพราะบริเวณที่เกิดเส้นเลือดขอดนั้นมักไม่สวยงาม แต่เส้นเลือดขอดนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบกับแค่เรื่องความงามเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและรีบรักษา ก่อนลุกลามและก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต หากคุณกำลังสังสัยเกี่ยวกับ เส้นเลือดขอดเกิดจากอะไร เส้นเลือดขอดที่ขารักษาอย่างไร รักษาเส้นเลือดขอดที่ไหนดี คลินิกรักษาเส้นเลือดขอด หมอรักษาเส้นเลือดขอดเก่งๆ ผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด วิธีรักษาเส้นเลือดขอดและควรดูแลอย่างไร ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นเลือดขอดและวิธีการรักษาเส้นเลือดขอด เคล็ดลับการรักษาเส้นเลือดขอด เราได้รวบรวมคำตอบมาไว้ที่นี่แล้วค่ะ

ทำไมต้องรักษาเส้นเลือดขอด

โรค หรืออาการเจ็บป่วย เป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคที่ร้ายแรงมาก หรือไม่ร้ายแรง การดูแลอย่างถูกวิธีและรักษาให้หายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการดูแลตนเอง เส้นเลือดขอด หรือโรคหลอดเลือดดำชั้นตื้นบกพร่องเรื้อรัง ก็เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ควรรีบรักษา เพราะเมื่อเป็นแล้วจะมีอาการเจ็บปวด หรือเป็นตะคริวบ่อย ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต และเมื่อเป็นหนักขึ้น ก็จะกลายเป็นเส้นเลือดขอดเรื้อรัง ผิวบริเวณที่เป็นจะสีเข้มขึ้น ผิวแตกและแข็งกระด้างจนดูไม่สวยงาม นอกจากนี้ หากยังคงปล่อยไว้นาน การรักษาก็จะยากขึ้น เส้นเลือดขอดที่เดิมทีมีขนาดเล็กจะบวมและอักเสบขึ้นเรื่อย ๆ ผิวหนังบางลง เมื่อถูกกระทบอย่างรุนแรงก็อาจทำให้แตกได้ ซึ่งผลที่จะเกิดตามมาคือ อาจเกิดการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จนอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด 

เส้นเลือดขอด ทำไมต้องรักษา

เส้นเลือดขอดที่ขารักษาอย่างไร

ค้นหาการรักษาเส้นเลือดขอดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ การรักษาเส้นเลือดขอด มีอยู่หลากหลายวิธี ทั้งการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการใส่ถุงน่องทางการแพทย์ ผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด การฉีดยารักษาเส้นเลือดขอด และการฉีดโฟมรักษาเส้นเลือดขอด 

การรักษาเส้นเลือดขอดที่ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด เส้นเลือดขอดมีวิธีรักษายังไง วิธีการรักษาเส้นเลือดขอดไม่ต้องผ่าตัด ด้วยวิธีการฉีดโฟมสลายเส้นเลือดขอดนี้ เป็นเทคนิคการรักษาเส้นเลือดขอดที่ De Queens Clinic ใช้ในการรักษา เคล็ดลับการรักษาเส้นเลือดขอด เลือกใช้โฟมสลายเส้นเลือดขอด กษาเส้นเลือดขอดด้วยเทคโนโลยีทันสมัยจากเยอรมัน ให้คุณมั่นใจในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาเส้นเลือดขอด โดยไม่ต้องผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด

การฉีดโฟมรักษาเส้นเลือดขอด เป็นวิธีที่เหมาะกับเส้นเลือดขอดที่มีขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยแพทย์จะฉีดสารเคมี หรือยาสลายเส้นเลือดขอดที่ถูกตีให้เป็นฟองฉีดเข้าไปยังเส้นเลือดขอด เพื่อให้เส้นเลือดขอดเกิดแผลและตีบลง ฝ่อลง และไม่ถูกใช้งาน เส้นเลือดที่ตีบลงจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดโฟมนี้ จะทำให้เส้นเลือดขอดหายไปภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หลังการรักษาแพทย์จะให้สวมถุงน่องเส้นเลือดขอดเพื่อป้องกันการเกิดเพิ่ม อีกทั้งแพทย์อาจแนะนำให้มาฉีดซ้ำเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำในอนาคต

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด

การรักษาเส้นเลือดขอด แก้ปัญหาอะไรบ้าง ?

- รักษาเส้นเลือดฝอยขอด ที่มีขนาด 1-5 มิลลิเมตร

- รักษาเส้นเลือดขอดโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

- การรักษาเส้นเลือดขอดเป็นการทำให้เส้นเลือดฝ่อและตีบลงในที่สุด

- รักษาเส้นเลือดขอด สามารถรักษาได้ผลทั้งหลอดเลือดขอดและหลอดเลือดฝอย ใยแมงมุม เพียง 2-3 มิลลิเมตร หลอดเลือดที่โป่งพองก็จะยุบและจางหายไป

- อาการเจ็บ ปวด ชา บริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอดหายไป

วิธีรักษาเส้นเลือดขอด ที่ De Queens Clinic

ขั้นตอนรักษาเส้นเลือดขอด การรักษาเส้นเลือดขอด ทำโดยการฉีดยารักษา ฉีดสลายเส้นเลือดขอด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนการฉีดรักษาเส้นเลือดขอด แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมาก ฉีดยาเข้าไปในเส้นเลือดขอด หลังการรักษาเส้นเลือดขอดอาจเกิดรอยช้ำตรงตำแหน่งที่ฉีดได้ แต่จะหายไปเองภายใน 2 – 3 สัปดาห์ หลังการรักษาควรสวมถุงน่องซัพพอร์ตขาไว้ประมาณ 1 – 3 สัปดาห์ สามารถออกกำลังกายและทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

*ผลการรักษา ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด หลักพัน

ไม่เจอแสงแดดบ่อย แต่ทำไมยังเป็นฝ้า กระ?

แม้ไม่ได้ตากแดดโดยตรง แต่เรายังสามารถได้รับรังสี UV ได้จาก

  • Indirect UV รังสี UV สามารถสะท้อนจากพื้นผิวต่างๆ เช่น ก้อนเมฆ, อาคาร, พื้นถนน, ผิวน้ำ มากระทบผิวเราได้ แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม หรืออยู่ในที่ร่มแต่ยังมองเห็นท้องฟ้า ก็ยังมีความเสี่ยงได้รับรังสี UV
  • การทะลุผ่านกระจก รังสี UVA สามารถทะลุผ่านกระจกหน้าต่างได้ การนั่งทำงานริมหน้าต่าง หรืออยู่ในอาคารที่มีกระจกใส ก็ยังสัมผัสกับ UVA ได้

หน้าเป็นฝ้า กระ ทั้งที่แทบไม่ได้ออกไปไหน เพราะอะไร?

นอกจากรังสี UV จากแสงแดด (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่กระตุ้นการเกิดฝ้า กระได้ แม้จะอยู่ในอาคารเป็นส่วนใหญ่

  1.  แสงสีฟ้าจากหน้าจอ (Blue Light) หรือ High Energy Visible Light (HEVL) เป็นแสงที่มองเห็นได้ มีความยาวคลื่นประมาณ 400-500 นาโนเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับ UVA แหล่งกำเนิดมีทั้งจากธรรมชาติ (ดวงอาทิตย์) และจากอุปกรณ์ที่เราใช้เป็นประจำ เช่น สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, โทรทัศน์
     - ทำไมแสงสีฟ้าถึงทำให้เกิดฝ้า กระ? มีงานวิจัยชี้ว่าการสัมผัสแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน สามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังได้ลึก และอาจกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำ และฝ้าได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีสีผิวเข้ม หรือมีแนวโน้มเป็นฝ้าง่ายอยู่แล้ว
  2. หลอดไฟบางชนิด หลอดไฟบางประเภท โดยเฉพาะหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดไฟที่ให้ความร้อนสูง อาจปล่อยรังสี UVA ออกมาในปริมาณเล็กน้อย หรือปล่อยความร้อน ซึ่งความร้อนก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถกระตุ้นการสร้างเมลานินได้เช่นกัน การสัมผัสเป็นประจำ แม้ปริมาณรังสีจะไม่เท่าแสงแดด แต่ก็อาจเป็นปัจจัยเสริมได้ ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า “ไม่เจอแสงแดด ไม่ต้องทาครีมกันแดด” จึงไม่ถูกต้องนัก เพราะเรายังเผชิญกับแสงสีฟ้าและความร้อนจากหลอดไฟได้ตลอดวัน การทาครีมกันแดดที่ปกป้องได้ทั้ง UVA, UVB และอาจรวมถึง Blue Light จึงยังคงจำเป็น

ปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เป็นฝ้า กระ นอกเหนือจากแสง

  • พันธุกรรม หากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้า กระ ก็มีแนวโน้มที่เราจะเป็นได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในคนเอเชีย และกระบางชนิดอาจพบได้ตั้งแต่เด็ก ฝ้าหรือกระที่เกิดจากพันธุกรรมมักกลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายแม้รักษาจนจางลงแล้ว
  • ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน) มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ มักพบใน:
     - ผู้ที่ตั้งครรภ์ (เรียกว่า Chloasma หรือ "หน้ากากแห่งการตั้งครรภ์")
     - ผู้ที่ทานยาคุมกำเนิด หรือรับฮอร์โมนทดแทน
     - ผู้ที่มีภาวะเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมน อาจจางลงได้เองหลังคลอด หรือเมื่อหยุดยาคุม หรือเมื่อระดับฮอร์โมนกลับสู่สมดุล
  • ยาบางชนิด: ยาหลายชนิดทำให้ผิวไวต่อแสง (Photosensitivity) มากขึ้น ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือจุดด่างดำได้ง่ายเมื่อสัมผัสแสง แม้เพียงเล็กน้อย ตัวอย่างยา เช่น ยากันชักบางชนิด, ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม (Tetracyclines, Sulfonamides), ยาขับปัสสาวะ, ยารักษาความดันบางชนิด, NSAIDs, เรตินอยด์ (ยากลุ่มวิตามินเอ), ยาต้านอาการทางจิตบางชนิด, ยารักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า เป็นต้น
  • เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
     - สารประกอบบางชนิดในเครื่องสำอาง เช่น น้ำหอม, แอลกอฮอล์, สี อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ และตามมาด้วยรอยดำหรือกระตุ้นฝ้าได้ในบางคน
     - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีสารอันตราย เช่น ปรอท, สเตียรอยด์, ไฮโดรควิโนน (ในความเข้มข้นที่ไม่เหมาะสมและไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์) ซึ่งมักอวดอ้างว่าทำให้หน้าขาวใสเร็ว อาจทำลายผิวในระยะยาว ทำให้ผิวบางลง แพ้ง่าย ไวต่อแสง และเกิดฝ้าถาวร หรือรอยดำผิดปกติได้ เมื่อหยุดใช้อาจมีอาการเห่อ หรือเห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจนขึ้น
  • ความเครียด เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งนอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังสามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินให้เพิ่มมากขึ้นได้ ทำให้ฝ้าดูเข้มขึ้นหรือเกิดใหม่ได้

ปกป้องผิวจากปัญหาฝ้า กระ ด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

  1.  ทาครีมกันแดดเป็นประจำ สำคัญที่สุด! เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 หรือสูงกว่า และมี PA++++ เพื่อปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทุกวัน แม้ในวันที่ไม่ได้ออกแดด หรือทำงานในอาคาร (อาจเลือกชนิดที่ป้องกัน Blue Light ได้ด้วย) ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากอยู่กลางแจ้งหรือเหงื่อออกมาก
  2. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 - 16.00 น. หากต้องออกแดด ควรใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น สวมหมวกปีกกว้าง, แว่นกันแดด, เสื้อแขนยาว หรือกางร่ม
  3. ดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว เน้นการให้ความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว อาจปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนจุดด่างดำ หรือพิจารณาหัตถการที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  4. พิจารณาเรื่องยาและฮอร์โมน หากสงสัยว่ายาที่ใช้อยู่ หรือการคุมกำเนิด อาจเป็นสาเหตุของฝ้า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนยาหรือวิธีการคุมกำเนิด (ห้ามหยุดยาเอง)
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ลดการใช้หน้าจอก่อนนอน
  6. จัดการความเครียด หากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย, ฟังเพลง, ทำสมาธิ หรือพักผ่อนหย่อนใจ
  7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้หลากสี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (เช่น วิตามินซี, วิตามินอี) และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  8. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีส่วนผสมที่อาจก่อการระคายเคือง ระวังผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงว่าขาวเร็วขาวไว

รักษาฝ้า กระ ที่ไหนดี?

ปัญหาฝ้า กระ อาจรักษาให้หายขาดได้ยาก โดยเฉพาะฝ้าลึกหรือฝ้าจากพันธุกรรม แต่สามารถทำให้จางลงและควบคุมไม่ให้เข้มขึ้นได้ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน มีหัตถการหลายอย่างที่ช่วยรักษาได้ เช่น
  • Pico Laser เลเซอร์ที่นิยมมากในการรักษาเม็ดสี สามารถทำลายเม็ดสีได้อย่างจำเพาะเจาะจง และกระตุ้นคอลลาเจน
  • Q-Switched Laser เลเซอร์อีกชนิดที่ใช้รักษาเม็ดสีได้ดี
  • หัตถการอื่นๆ เช่น การฉีดเมโสฝ้า (Mesotherapy), การทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว หรือการใช้ยาทาภายใต้การดูแลของแพทย์

การเลือกวิธีรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินชนิดของฝ้า กระ และสภาพผิว เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและได้ผลดีที่สุด

หากไม่มั่นใจว่าจะเลือกคลินิกไหน ให้ เดอควีนส์ คลินิก ช่วยดูแลได้ค่ะ เรามีบริการด้านความงามที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Pico Laser ทีมแพทย์ของเรามีประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด

สำหรับใครที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเอง หรือสามารถเข้ารับบริการ Walk-in ได้ที่ เดอควีนส์ คลินิก ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ คลินิกความงามชลบุรี และคลินิกความงามเพชรบุรี

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเส้นเลือดขอด

เส้นเลือดขอดเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เส้นเลือดขอดเกิดจากอะไร เส้นเลือดขอดเกิดจากความผิดปกติของลิ้นและผนังหลอดเลือดดำ ปกติเวลาที่เรายืน แรงโน้มถ่วงของโลกจะดึงดูดเลือดในเส้นเลือดให้ลงไปสู่สนามแม่เหล็กโลก การยืนหรือนั่งนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบท เป็นสาเหตุหลักของการเกิดเส้นเลือดขอด เนื่องจากการอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ ทำให้เลือดที่ไหลลงมาหล่อเลี้ยงขาไม่สามารถไหลเวียนกลับขึ้นไปสู่หัวใจได้สะดวก ทำให้เลือดที่ขามีแรงดันในผนังเส้นเลือดมากกว่าเลือดที่อยู่ส่วนบนของร่างกาย หากมีการอุดตันของลิ้นในหลอดเลือดดำ หรือมีการอักเสบที่ผนังหลอดเลือดดำร่วมด้วย ก็จะยิ่งทำให้เลือดคั่งอยู่ใน หลอดเลือดส่วนปลาย จึงทำให้ผนังหลอดเลือดดำที่ชั้นใต้ผิวหนัง เกิดการขยายตัวแบบผิดปกติ กลายเป็นเส้นเลือดขอดตามมา ซึ่งอาการของผู้ป่วยเส้นเลือดขอดในระยะแรก จะมีอาการเจ็บ หนักขา ขาบวม ตึง แสบร้อน

เป็นเส้นเลือดขอด มีอาการอย่างไร?

- มีเส้นเลือดโป่งพองสีเขียวคล้ำ คดไปมาเกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่บริเวณตาตุ่ม น่อง ขาพับ ต้นขา โคนขา สะโพก หน้าท้อง และตามส่วนอื่น ๆ เมื่อกดดูจะรู้สึกเจ็บและตึงบริเวณที่เป็น

- รายที่เป็นหนัก มีอาการปวดขาและบวมที่เท้า เนื่องจากปริมาณของเลือดและน้ำเหลือง ไปคั่งบริเวณขาและเท้ามากกว่าคนปกติ เป็นตะคริวในตอนกลางคืน และรู้สึกคันที่ผิวหนังบริเวณนั้น หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดการอักเสบ จนเส้นเลือดในบริเวณนั้นแตก และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เส้นเลือดขอดมีกี่ระยะ

เส้นเลือดขอดนั้นในระยะเริ่มต้นไม่มีความร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้นานก็จะร้ายแรงและรักษายากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ระยะที่ 1 เส้นเลือดขอดมีลักษณะคล้ายใยแมงมุม มักมีขนาดน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร เห็นเส้นเลือดขอดเป็นสีเขียวๆ หรือฟ้าใต้ผิวหนัง

ระยะที่ 2 เส้นเลือดขอดเริ่มปูด เป็นตัวหนอน ขนาดใหญ่มากกว่า 3 มิลลิเมตร

ระยะที่ 3 เริ่มมีอาการขาบวม และปวดมากขึ้นจนส่งผลต่อการดำเนินชีวิต

ระยะที่ 4 สีผิวที่ขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเข้มขึ้น มีภาวะอักเสบบนผิวหนัง ปล่อยไว้นานอาจเกิดแผล และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอด

- หญิงตั้งครรภ์ ปริมาณของเลือดในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ

- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก จะทำให้เกิดแรงดันบนหลอดเลือด

- ผู้หญิง เส้นเลือดขอดมีโอกาสเกิดขึ้นในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย รวมถึงวิถีชีวิตของผู้หญิงที่มักใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดีซึ่งเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของการเกิดเส้นเลือดขอด

- ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมที่ต้องยืนเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอดมากกว่าปกติ

- พันธุกรรม ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอดเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอดมากกว่าปกติ

- ผู้สูงอายุ หลอดเลือดของผู้สูงอายุจะเริ่มหลวมและหย่อนตัวลง ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ง่าย

หลังรักษาเส้นเลือดขอด ควรดูแลตัวเองยังไง

1. ควรงดการยกของหนักหรือยืนนาน ๆ เป็นเวลา 3 - 7 วัน

2. ควรใส่ผ้ายืดหรือถุงน่องเส้นเลือดขอด เพื่อประคองกล้ามเนื้อและเส้นเลือดบริเวณนั้น ส่วนระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นเลือด โดยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กให้ใส่ไว้ 1 - 3 วัน ส่วนเส้นเลือดขอดขนาดกลาง (ขนาดเท่าไส้ปากกา) ควรใส่อย่างน้อย 7 วัน ขึ้นไป

3. ควรออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้ยากระจายตัว อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น

4. ควรพบแพทย์ตามนัดภายใน 2 - 4 สัปดาห์ เพื่อแพทย์จะได้ติดตามผลการรักษาและควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งคัด

เส้นเลือดขอด ป้องกันอย่างไร?

1. ไม่ควรยืนหรือนั่งเฉย ๆ ท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน หากไม่ขยับตัวจะเสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอดได้ง่าย จึงควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ

2. ออกกำลังกายตามสภาพอายุ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายสูบฉีดเลือด ในระบบเลือดไหวเวียนได้ดี ห่างไกลจากการเป็นเส้นเลือดขอด

3. ควบคุณน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ น้ำหนักที่มากเกินไปก็มีโอกาสเป็นเส้นเลือดขอดได้ง่าย

4. ควรยกขาสูงกว่าระดับหัวใจในเวลาพักผ่อน เช่น ระหว่างนอนพักผ่อน เล่นมือถือ ควรหาโอกาสนอนราบยกขาให้สูงกว่าระดับหัวใจ ให้เลือดได้สูบฉีด ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดได้ดี

5. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน หรือใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป เพราะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้เกิดเส้นเลือดขอดได้

รักษาเส้นเลือดขอดกับ De Queens Clinic ดีอย่างไร?

- เพียง 2-3 สัปดาห์ หลอดเลือดที่โป่งพองจะยุบและจางหายไป

- เป็นการทำให้เส้นเลือดฝ่อและตีบลงในที่สุด

- รักษาด้วยวิธีฉีดโฟมเยอรมัน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

- รักษาเส้นเลือดฝอยขอด ที่มีขนาด 1-5 มิลลิเมตร

- มีแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดสลายเส้นเลือดขอด รักษาโดยคุณหมอที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ปลอดภัย

- ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดคั่งใหม่

- ช่วยลดการคั่งของเลือด

- ทำให้ผิวบริเวณที่เป็นเรียบเนียน กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง เส้นเลือดขอดจางไป

สำหรับท่านใดที่มีปัญหาเส้นเลือดขอด กำลังมองหาหมอรักษาเส้นเลือดขอดเก่งๆ รักษาเส้นเลือดขอดที่ไหนดี ต้องการรับคำปรึกษาหรือสนใจบริการรักษาเส้นเลือดขอด ท่านสามารถเข้ารับบริการรักษาเส้นเลือดขอด ที่ De Queens Clinic คลินิกรักษาเส้นเลือดขอดชลบุรี คลินิกรักษาเส้นเลือดขอดเพชรบุรี เลือกคลินิกรักษาเส้นเลือดขอดใกล้ท่าน สาขาที่ท่านสะดวกรับบริการ หรือทักเข้ามาปรึกษาปัญหาได้ที่ Line: @dequeensclinic ทางคลินิกมีแพทย์เฉพาะทางรักษาเส้นเลือดขอด ให้คำปรึกษาแนะนำ ดูแลตลอดการรักษาทุกขั้นตอนค่ะ