7 วิธีชะลออาการเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม

7 วิธีชะลออาการเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม

แม้เส้นเลือดขอดจะไม่อันตรายร้ายแรงในทันที แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้ขาปวด บวม หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ การดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ จึงสำคัญ ช่วยชะลออาการไม่ให้ลุกลาม และลดความเสี่ยงต่อการผ่าตัดได้

บทความนี้จะแนะนำ 7 วิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

เส้นเลือดขอด เกิดจากอะไร

เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากการทำงานล้มเหลวของลิ้นหลอดเลือด (Valve) ซึ่งมีหน้าที่เปิด-ปิด เพื่อควบคุมการไหลเวียนของเลือด โดยสาเหตุนั้นเกิดจากพฤติกรรมการยืน หรือเดินนาน ซึ่งส่งผลให้ลิ้นหลอดเลือดเสื่อมสภาพ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและเกิดการคั่งสะสมบริเวณขา มักปรากฏเป็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆ คล้ายใยแมงมุม (Spider Veins) หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก อาการอาจลุกลามและส่งผลกระทบต่อสุขภาพขาและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น

  • ปวด ตึง หรือเป็นตะคริวที่ขา
  • ขยับขาไม่สะดวก ขาบวม
  • ปวดมากเวลาเดิน

สำหรับผู้ที่มีอาการลุกลามถึงระยะ 4–6 นอกจากความเจ็บปวดแล้ว อาจเกิดบาดแผล ผิวอักเสบ แตกแห้ง ดำคล้ำ และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้

6 ระยะ เส้นเลือดขอด อันตรายยังไง?

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอด

 ปัจจัยกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอดโดยไม่รู้ตัว ได้แก่

  • ยืนหรือเดินนานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและเพิ่มแรงดันที่ขาต่อเนื่อง พบมากในอาชีพครู พยาบาล หรือเซลล์
  • น้ำหนักตัวเกิน เกิดแรงดันที่ทำให้หลอดเลือดทำงานหนักขึ้น จนลิ้นหลอดเลือดเสื่อมประสิทธิภาพ
  • การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนและปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการหย่อนตัว
  • พันธุกรรม หากครอบครัวมีประวัติเส้นเลือดขอด มีโอกาสทำให้เป็นเส้นเลือดขอดสูงขึ้น
  • พฤติกรรมบางอย่าง เช่น ใส่รองเท้าส้นสูงหรือชอบนั่งไขว่ห้างบ่อยๆ จะส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

7 วิธีชะลออาการเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม

แม้ว่าเส้นเลือดขอดจะไม่สามารถรักษาให้หายด้วยตัวเอง และอาจลุกลามได้ แต่เราสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อชะลออาการได้ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

7 วิธีชะลอเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม

1. สวมถุงน่องเส้นเลือดขอด หรือถุงน่องทางการแพทย์

ถุงน่องเส้นเลือดขอดจะช่วยสนับสนุนการไหลเวียนของเลือด ลดการคั่งสะสมบริเวณขา และช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประคองกล้ามเนื้อและเส้นเลือดบริเวณขาได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพต้องยืนหรือเดินบ่อยๆ เช่น พยาบาล หรือครู (ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกระดับแรงรัดที่เหมาะสม)

2. หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือการนั่งนานเกินไป

การยืนนิ่ง หรือนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ระหว่างวันพยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ด้วยการลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสาย ทุกๆ 30-60 นาที หากยืนเป็นเวลานานเกินไป ควรหาเวลาพักขา และงดใส่ส้นสูงเป็นประจำ

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือโยคะ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขา ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักเกินไป เพราะอาจเป็นการเพิ่มแรงดันในเส้นเลือดขามากกว่าเดิม

4. คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดต้องรับแรงดันสูงขึ้นและทำงานหนักในการส่งเลือดกลับสู่หัวใจ การออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม จึงเป็นอีกวิธีสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดเส้นเลือดขอดได้

5. งดใส่เสื้อผ้ารัดแน่น หรือพฤติกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก

การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป เช่น กางเกงรัดรูป หรือถุงน่องแฟชั่น อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก นอกจากนี้ การนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ ก็อาจทำให้เส้นเลือดบริเวณขาถูกกดทับได้เช่นกัน

6. หาเวลาพักขา และยกขาสูงบ่อยๆ

การยกขาให้สูงกว่าระดับหัวใจจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการบวม และบรรเทาความรู้สึกไม่สบายจากเส้นเลือดขอดได้ โดยให้ยกขาพาดบนผนังหรือใช้หมอนหนุนให้ขาสูงขึ้น ประมาณ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ตามท่านี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะหัวใจผิดปกติหรือความดันสมองสูง

7. ปรึกษาแพทย์ หากพบว่าอาการไม่ดีขึ้น

หากมีอาการเส้นเลือดขอดที่รบกวนการใช้ชีวิต เช่น ปวด บวม อักเสบ ขาชา หรือมีแผล ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม โดยปัจจุบันมีวิธีรักษาหลายรูปแบบ เช่น การฉีดสลายเส้นเลือด (Sclerotherapy) การใช้เลเซอร์ หรือการผ่าตัด ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดี

การดูแลตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงเส้นเลือดขอด

การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันมีส่วนสำคัญในการชะลอและป้องกันไม่ให้เส้นเลือดขอดลุกลาม โดยควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และสวมถุงน่องทางการแพทย์เพื่อช่วยบรรเทาอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

ควรทำอย่างไรเมื่อเริ่มมีอาการเส้นเลือดขอด

หากสังเกตเห็นความผิดปกติที่ขา เช่น มีเส้นเลือดฝอยปรากฏชัด เส้นเลือดปูดนูนผิดปกติ หรือเริ่มมีอาการปวด ตึง หนักขา ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมตามระยะของเส้นเลือดขอด ที่สำคัญไม่ควรรักษาด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้อาการลุกลาม และยากต่อการควบคุมในอนาคตได้

บอกลาปัญหาเส้นเลือดขอด จัดการได้ด้วยการฉีดสลาย

บินจากเดนมาร์กเพื่อมารักษาเส้นเลือดขอดกับคุณหมอโบว์

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เป็นหนึ่งในวิธีรักษาเส้นเลือดขอดที่ได้รับความนิยม เนื่องจากขั้นตอนไม่ซับซ้อน โดยแพทย์จะฉีดตัวยารูปแบบโฟมเข้าสู่หลอดเลือดที่มีปัญหา ทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบและเสียหาย ส่งผลให้เส้นเลือดเกิดการตีบตันและฝ่อไปในที่สุด ใช้เวลาประมาณ 15–30 นาทีต่อครั้ง ระหว่างทำหัตถการอาจมีการใช้ยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น

ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของเส้นเลือด รวมถึงการตอบสนองของร่างกายในแต่ละบุคคล แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม

รักษาเส้นเลือดขอด ที่เดอควีนส์ คลินิก

ทำอาชีพเซลล์ เป็นเส้นเลือดขอดปูดนูน ปวด ตึง ขาชา

การป้องกันเส้นเลือดขอดทำได้ง่ายๆ เพียงปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หากดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงของเส้นเลือดขอด แต่ยังส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อขาที่เรียบเนียนและสุขภาพดีในระยะยาว

เดอควีนส์ คลินิก ยินดีคืนความมั่นใจให้ผู้ที่มีปัญหาเส้นเลือดขอด ด้วยการฉีดสลายเส้นเลือดขอด อีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักฟื้น และเจ็บตัวน้อย ดูแลโดยคุณหมอโบว์ แพทย์มากประสบการณ์ รักษาเส้นเลือดขอดมาแล้วกว่า 10 ปี ประเมินคนไข้ และออกแบบการรักษาเป็นรายบุคคล สำหรับใครที่พบปัญหาเส้นเลือดขอด สามารถปรึกษา และส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หรือ Walk in เข้ารับการรักษาได้ที่คลินิกใกล้บ้านทั้งสาขาชลบุรี และสาขาเพชรบุรี...เดอควีนส์ ใส่ใจทุกปัญหาของคนไข้ พร้อมดูแลเส้นเลือดขอดให้คุณอย่างมืออาชีพ