เทียบ 3 ยี่ห้อโบท็อกซ์ตัวดัง แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

เทียบ 3 ยี่ห้อโบท็อกซ์ตัวดัง แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

ปัจจุบันการฉีดโบท็อกซ์ (Botulinum Toxin) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ไปจนถึงลดขนาดน่อง กราม หรือใช้เพื่อลดเหงื่อและกลิ่นตัวบริเวณรักแร้ ความต้องการเหล่านี้ทำให้ตลาดความงามมีโบท็อกซ์หลายยี่ห้อให้เลือก แต่ที่ถูกพูดถึงบ่อยและนิยมใช้ในคลินิกเสริมความงามคือ Neuronox Allergan และ Dysport

แม้โบท็อกซ์ทั้งหมดจะมีสารออกฤทธิ์หลักคล้ายคลึงกัน แต่แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นเฉพาะที่แตกต่าง และอาจเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวไม่เหมือนกัน บทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าโบท็อกซ์ทั้ง 3 ยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

โบท็อกซ์ คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) เป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ที่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย สารนี้จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวและทำงานลดลงชั่วคราว

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว จึงสามารถใช้เพื่อลดขนาดกรามให้ใบหน้าเล็กเรียว ลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า และช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

(กราฟิก : โบท็อกซ์ ช่วยอะไร ดียังไง?)

โบท็อกซ์ Neuronox

Neuronox เป็น Botulinum Toxin Type A จากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Medytox ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และผ่านการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทย ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายทั้งในยุโรปและเอเชีย จุดเด่นคือเป็นโบท็อกซ์เกาหลีแบรนด์หนึ่งที่ใช้สายพันธุ์ Hall A-hyper ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ใช้ในโบท็อกซ์ของสหรัฐอเมริกา จึงมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน แต่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า

สำหรับ Neuronox จะมีผลิตภัณฑ์เพียงรุ่นเดียว แต่แบ่งตามขนาดของขวด เพื่อให้เลือกใช้ได้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด เนื่องจากแต่ละจุดต้องการจำนวนยูนิตไม่เท่ากัน ได้แก่

  •  50 Units (ขวดสีแดง)
  • 100 Units (ขวดสีฟ้า)
  • 200 Units (ขวดสีส้ม) 

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Neuronox

  • สายพันธุ์ดั้งเดิม Neuronox ผลิตจาก Botulinum Toxin Type A สายพันธุ์ Hall A-hyper ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ใช้ในผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มจากสหรัฐอเมริกา ทำให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน
  • ความบริสุทธิ์ของตัวยา มีการควบคุมคุณภาพให้ได้ระดับความบริสุทธิ์สูง (ประมาณ 98-99%) ซึ่งส่งผลต่อการออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ และอาจช่วยลดโอกาสการดื้อยาได้
  • การออกฤทธิ์ โดยทั่วไปเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายในประมาณ 3–7 วัน และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในช่วง 10–14 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
  • ราคาย่อมเยาเข้าถึงง่าย เมื่อเปรียบเทียบกับโบทูลินั่มจากยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา Neuronox จัดอยู่ในกลุ่มที่มีราคาค่อนข้างเข้าถึงได้ จึงเป็นที่นิยมในวงการความงาม
  • มีมาตรฐานความปลอดภัย ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานด้านสุขภาพในหลายประเทศ

โบท็อกซ์ Neuronox ช่วยอะไร

  •  ลดเลือนริ้วรอย ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก หรือรอยระหว่างคิ้ว
  • ปรับรูปหน้า สามารถใช้เพื่อปรับสมดุลของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ลิฟต์กรอบหน้า หรือลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม เพื่อให้รูปหน้าโดยรวมดูสมส่วนมากขึ้น
  • ปรับรูปร่าง มีการนำมาใช้กับกล้ามเนื้อบริเวณแขนหรือขาที่มีขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้สัดส่วนดูกะทัดรัด กระชับขึ้น
  • ลดเหงื่อและกลิ่นตัว ช่วยบรรเทาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) โดยสามารถฉีดบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าได้

ฉีดโบท็อกซ์ neuronox กี่วันเห็นผล

  • ลดริ้วรอย หน้าผาก ตีนกา หว่างคิ้ว จะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผล 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
  • ลิฟต์กรอบหน้า เหนียง ลำคอ จะเริ่มเห็นผลใน 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่ 1-2 สัปดาห์
  • ลดกราม ปรับรูปหน้า สามารถเห็นผลใน 14 วัน โดยคนไข้จะรู้สึกถึงกล้ามเนื้อกรามที่นุ่มลง และกรามจะยุบลงเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน

โบท็อกซ์ Neuronox ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังฉีดโบท็อกซ์ Neuronox ผลลัพธ์มักอยู่ได้นานประมาณ 4–6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนยูนิตที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังทำ
  • โบท็อกซ์ลดริ้วรอย โดยทั่วไปผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3–4 เดือน
  • โบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้า ผลลัพธ์มักอยู่ได้ประมาณ 5–6 เดือน
  • ในกรณีที่มีการฉีดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ อาจช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ต่อเนื่องมากขึ้น

โบท็อกซ์ Allergan

โบท็อกซ์สัญชาติอเมริกาที่ผลิตโดยบริษัท Allergan เป็น Botulinum Toxin Type A แบรนด์แรกที่ถูกนำมาใช้ทั้งในวงการแพทย์เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท และในด้านความงาม

จัดว่าเป็นโบท็อกซ์ Original ที่คิดค้นและพัฒนาสารโบทูลินั่มขึ้นมาเป็นรายแรก และเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา สำหรับการลดเลือนริ้วรอย ปัจจุบันมีงานวิจัยรองรับมากกว่า 3,500 ชิ้น

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Allergan

  • มีความบริสุทธิ์สูง ตัวยามีความบริสุทธิ์ประมาณ 99.5% มีโปรตีนเสริมเล็กน้อยที่ช่วยให้ตัวยาจับกับกล้ามเนื้อได้ดี
  • การกระจายตัวแคบ ทำให้สามารถกำหนดตำแหน่งการออกฤทธิ์ของยาได้อย่างแม่นยำ เหมาะกับการฉีดในบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง
  • ระยะเวลาผลลัพธ์ มีแนวโน้มคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน ซึ่งอาจแตกต่างไปตามแต่ละบุคคลและตำแหน่งการฉีด
  • มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก USFDA และมีงานวิจัยรองรับการใช้อย่างกว้างขวาง

โบท็อกซ์ Allergan ช่วยอะไร

  • ลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกา
  • ปรับรูปหน้า ลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้รูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
  • ลดเหงื่อ บริเวณใต้วงแขน ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
  • รักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุก เช่น เปลือกตากระตุก หรืออาการกัดฟัน
  • ปรับรูปร่าง สามารถใช้เพื่อลดกล้ามเนื้อน่องหรือต้นแขนให้เล็กลง

ฉีดโบท็อกซ์ Allergan กี่วันเห็นผล

  • ลดริ้วรอย จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3–7 วัน และผลลัพธ์มักเห็นได้ชัดขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์
  • กราม ปรับรูปหน้า ผลลัพธ์เริ่มสังเกตได้หลังจาก 2 สัปดาห์ และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ประมาณ 2–3 เดือน
  • ลิฟต์กรอบหน้า คอ ผลลัพธ์มักเห็นได้ภายใน 1–2 สัปดาห์
  • ลดเหงื่อ อาจเริ่มสังเกตเห็นได้ใน 1–3 วันแรก และเห็นผลเต็มที่ภายใน 1–2 สัปดาห์

โบท็อกซ์ Allergan ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 6–8 เดือน ซึ่งโดยทั่วไปอาจนานกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นเล็กน้อย เนื่องจากตัวยามีความบริสุทธิ์และความเสถียรสูง ทั้งนี้ระยะเวลาจริงขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลหลังทำของแต่ละคน

โบท็อกซ์ Dysport

เป็น AbobotulinumtoxinA โบท็อกซ์สัญชาติอังกฤษ ผลิตโดยบริษัท IPSEN มีคุณสมบัติเด่นคือมีความบริสุทธิ์สูงและสามารถกระจายตัวได้ดี เมื่อฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อจะไม่เกิดการกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่แคบๆ จึงเหมาะกับการฉีดยกกระชับด้วยเทคนิค dermolift นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอย ลดขนาดต้นแขน น่อง และกราม โดยกล้ามเนื้อจะค่อยๆ เล็กลง ทำให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติขึ้น

สำหรับโบท็อกซ์ยี่ห้อ Dysport ปริมาณยูนิตจะแตกต่างจากยี่ห้ออื่น โดย 300 ยูนิตของ Dysport จะมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 100 ยูนิตของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ควรทราบ เพราะบางโปรโมชั่นอาจระบุเพียงจำนวนยูนิตโดยไม่ชี้แจงเรื่องความเข้มข้นของตัวยา

จุดเด่นของโบท็อกซ์ Dysport

  • โมเลกุลขนาดเล็ก กระจายตัวได้กว้าง เหมาะสำหรับการฉีดในบริเวณกว้าง เช่น หน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา หรือการปรับรูปหน้าเพื่อลดกรามและน่อง
  • ออกฤทธิ์เร็ว อาจเริ่มเห็นผลชัดเจนภายใน 2–3 วัน ซึ่งเร็วกว่ายี่ห้ออื่นที่มักใช้เวลา 4–7 วัน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน โดยเฉลี่ยประมาณ 4–6 เดือน
  • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เพราะการกระจายตัวยาที่ดี ทำให้ใบหน้าไม่ดูแข็งหรือหน้าตึงเกินไปได้ง่าย
  • เหมาะสำหรับปรับรูปหน้า และลดขนาดกล้ามเนื้อ เช่น ลดกราม น่อง หรือต้นแขน เพราะช่วยให้กล้ามเนื้อค่อยๆ เล็กลง ดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้น

โบท็อกซ์ Dysport ช่วยอะไร

  • ลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยบนหน้าผาก หว่างคิ้ว
  • ปรับรูปหน้า ลดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามและโหนกแก้ม ปรับกรอบหน้าให้สมส่วน ดูเรียว V-Shape ขึ้น
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อ สามารถใช้ลดขนาดต้นแขนและน่อง ให้รูปร่างเรียวเล็ก
  • ลดเหงื่อ บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าได้
  • ลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกา ริ้วรอยบนหน้าผาก หว่างคิ้ว
  • ปรับรูปหน้า ลดการทำงานของกล้ามเนื้อกรามและโหนกแก้ม ปรับกรอบหน้าให้สมส่วน ดูเรียว V-Shape ขึ้น
  • ลดขนาดกล้ามเนื้อ สามารถใช้ลดขนาดต้นแขนและน่อง ให้รูปร่างเรียวเล็ก
  • ลดเหงื่อ บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าได้

ฉีดโบท็อกซ์ Dysport กี่วันเห็นผล

โดยทั่วไป Dysport จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2–3 วันหลังฉีด และมักเห็นผลเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและขนาดของกล้ามเนื้อ

โบท็อกซ์ Dysport ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังทำ เช่น การสัมผัสความร้อนอาจทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์สั้นลงได้

เทียบ 3 ยี่ห้อดัง Neuronox VS Allergan VS Dysport แตกต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติ Neuronox (เกาหลีใต้) Allergan (สหรัฐอเมริกา) Dysport (อังกฤษ)
แหล่งผลิต เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร
จุดเด่น ราคาย่อมเยา ประสิทธิภาพใกล้เคียงแบรนด์อเมริกา ความบริสุทธิ์และความเสถียรสูง กระจายตัวแคบ แม่นยำ โมเลกุลเล็ก กระจายตัวกว้าง ออกฤทธิ์เร็ว ดูเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับ ลดริ้วรอยเฉพาะจุด ลดกราม ผู้ที่ต้องการควบคุมงบประมาณ ลดริ้วรอยที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น รอบดวงตา หน้าผาก ลดริ้วรอยบริเวณกว้าง ลดกราม น่อง ต้นแขน ลิฟต์กรอบหน้า
ระยะเวลาเห็นผล ประมาณ 3–7 วัน ประมาณ 3–7 วัน ประมาณ 2–3 วัน
ผลลัพธ์คงอยู่ ประมาณ 4–6 เดือน ประมาณ 6–8 เดือน ประมาณ 4–6 เดือน
ข้อควรพิจารณา การกระจายตัวยาอาจน้อยกว่า ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น หน่วยยูนิตแตกต่างจากยี่ห้ออื่น (ต้องใช้จำนวนยูนิตมากกว่า)

เลือกโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี

ก่อนตัดสินใจเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ ควรพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ งบประมาณ ความต้องการของตัวผู้ใช้ และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดและการดูแลหลังทำเช่นกัน

เลือกฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าที่ไหนดี

กราฟิก รีวิวจากลูกค้าจริง คุณบี

การฉีดโบท็อกซ์ไม่ใช่หัตถการที่ทำกับใคร หรือที่ไหนก็ได้ เพราะใบหน้ามีจุดสำคัญที่ต้องระวัง หากฉีดไม่ถูกวิธีอาจเกิดผลข้างเคียงหรือไม่ปลอดภัย การเลือกแพทย์และคลินิกที่มีมาตรฐานจึงเป็นเรื่องสำคัญ

คุณหมอโบว์ แพทย์ประจำเดอควีนส์ คลินิก มีประสบการณ์ด้านความงามมากกว่า 10 ปี พร้อมตรวจประเมินใบหน้าและซักประวัติคนไข้ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ หลังทำยังมีการติดตามผลและให้คำแนะนำด้านการดูแลตัวเองฟรี

สำหรับใครที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ลดเหงื่อ ปรับรูปหน้า สามารถส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic (หมอตอบเอง) หรือ Walk in เข้ารับบริการได้ที่ เดอควีนส์ คลินิก สาขาชลบุรี และสาขาเพชรบุรี …เพราะใบหน้าเป็นหน้าต่างสำคัญ เราจึงอยากใส่ใจดูแลคุณเป็นพิเศษ