
เส้นเลือดขอดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และอาจสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคน ทั้งในด้านภาพลักษณ์ของเรียวขา และผลกระทบต่อสุขภาพ หากไม่ได้รับการดูแล อาการอาจพัฒนารุนแรงขึ้นได้ เช่น ปวดขา เป็นตะคริว ชา หรือเส้นเลือดโป่งพอง หรือในบางรายอาจเกิดผิวแห้งแตกและแผลเรื้อรัง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ นอกจากจะสร้างความไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเห็นได้ชัด และหากเกิดภาวะรุนแรง การรักษาอาจมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
การสังเกตและดูแลเส้นเลือดขอดตั้งแต่ระยะแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม ลดโอกาสลุกลามของอาการ และช่วยให้มีทางเลือกในการดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาฟื้นตัวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับระยะอาการที่รุนแรง
บทความนี้จึงมาพร้อมวิธีสังเกตอาการเส้นเลือดขอดระยะแรก สัญญาณเตือนที่ควรเฝ้าระวัง พร้อมวิธีชะลออาการ และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับระยะแรก
เส้นเลือดขอด เกิดจากอะไร
เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เกิดจากลิ้นหลอดเลือดดำ (Valve) ทำงานบกพร่อง ซึ่งปกติจะทำหน้าที่เปิด-ปิดเพื่อควบคุมการไหลกลับของเลือดสู่หัวใจ แต่เมื่อมีแรงดันในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น เช่น จากการยืนนาน เดินนาน หรือมีน้ำหนักตัวมาก หลอดเลือดจะขยายออกเพื่อลดแรงดัน ส่งผลให้ลิ้นหลอดเลือดเสื่อมประสิทธิภาพ เลือดไหลย้อนกลับได้ไม่เต็มที่และคั่งอยู่บริเวณขา จึงเกิดเป็นเส้นเลือดขอดตามมา
ความผิดปกตินี้ทำให้เส้นเลือดดำคดงอ ปูดนูน เป็นเส้นสีเขียวคล้ำ เห็นชัดบริเวณขา หรือในระยะแรกอาจเห็นเพียงเส้นเลือดฝอยสีแดงหรือม่วง ลักษณะคล้ายใยแมงมุม (Spider Veins)
หากปล่อยไว้โดยไม่เข้ารับการรักษา อาการอาจลุกลามจนเกิดอาการปวด เป็นตะคริว ขาบวม ผิวอักเสบ สีผิวคล้ำลง หรือรุนแรงจนเกิดแผลเรื้อรังบริเวณข้อเท้า ซึ่งรักษายากและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก

6 ระยะของเส้นเลือดขอด ภัยเงียบที่มากกว่าทำลายความมั่นใจ
เส้นเลือดขอดอาจเริ่มต้นจากเพียงเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ที่ดูไม่อันตราย แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา ก็สามารถลุกลามจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยทางการแพทย์ได้แบ่งความรุนแรงออกเป็น 6 ระยะ ตามเกณฑ์ CEAP ซึ่งแต่ละระยะมีลักษณะและอาการแตกต่างกัน
-
ระยะที่ 1 (C1)
เริ่มพบเส้นเลือดฝอยเล็กๆ สีแดงหรือม่วง ขนาดไม่เกิน 3 มม. คล้ายใยแมงมุม หรือที่เรียกว่า Spider Veins ส่วนใหญ่ยังไม่มีอาการปวด สามารถดูแลรักษาได้ง่ายด้วยการฉีดสลายเส้นเลือด โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น -
ระยะที่ 2 (C2)
เส้นเลือดขอดเริ่มปูดนูน เห็นเป็นเส้นสีเขียวขดไปมาคล้ายตัวหนอน ขนาดใหญ่กว่า 3 มม. ผู้ป่วยบางรายเริ่มมีอาการเมื่อยล้า ตึง ปวด หรือเป็นตะคริวช่วงกลางคืน -
ระยะที่ 3 (C3)
เส้นเลือดโป่งพองชัดเจนมากขึ้น และมีอาการขาบวมร่วมด้วย โดยเฉพาะหลังยืนนานหรือช่วงเย็น อาจทำให้ปวดขาจนรบกวนการใช้ชีวิต บางรายมีอาการชาเมื่อเดินหรือขับรถเป็นเวลานาน -
ระยะที่ 4 (C4)
ผิวหนังบริเวณขาเริ่มเปลี่ยนแปลง มีสีคล้ำขึ้น ผิวอักเสบ หรือผิวแข็งหนาตัว หากละเลยจะเสี่ยงเกิดแผลหรือการติดเชื้อ -
ระยะที่ 5 (C5)
มีประวัติแผลหลอดเลือดดำมาก่อน แม้แผลจะหายแล้ว แต่ผิวหนังยังคงผิดปกติ การดูแลด้วยการฉีดสลายเส้นเลือดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยตามดุลยพินิจแพทย์ -
ระยะที่ 6 (C6)
เกิดแผลเรื้อรังที่ยังไม่หาย มักพบบริเวณข้อเท้า ผิวหนังแตก ดำคล้ำ ขาบวม การรักษาในระยะนี้มีความซับซ้อน อาจต้องอาศัยการผ่าตัดหรือการดูแลเฉพาะทางเป็นหลัก

รู้ก่อน ดูแลทัน สัญญาณเส้นเลือดขอดระยะแรก
- เส้นเลือดฝอยเริ่มชัด เห็นเส้นเลือดฝอยสีแดง ม่วง หรือน้ำเงิน คดไปมาใต้ผิวหนัง คล้ายใยแมงมุม
- เส้นเลือดปูดเล็กน้อย เริ่มสังเกตเห็นเส้นเลือดนูนออกมาจากผิว แม้จะยังไม่มาก
- ปวดตุบๆ หนักขา รู้สึกปวดเมื่อยหรือหนักขา หลังยืนหรือนั่งนานๆ บางรายปวดเวลาเดิน
- ตะคริวบ่อย โดยเฉพาะกลางคืน อาจมีกล้ามเนื้อกระตุกหรือสั่นร่วมด้วย
- คันบริเวณเส้นเลือด ผิวบริเวณที่มีเส้นเลือดผิดปกติเริ่มคัน หรือระคายเคือง
- บวมเล็กน้อย พบได้บริเวณข้อเท้าหรือเท้า โดยเฉพาะช่วงเย็น
ทำไมต้องสังเกตอาการเส้นเลือดขอดตั้งแต่เนิ่นๆ
การสังเกตความผิดปกติตั้งแต่ระยะแรก เปรียบเหมือนการป้องกันปัญหาแต่เนิ่นๆ ช่วยยับยั้งเส้นเลือดขอดไม่ให้ลุกลามหนักกว่าเดิมได้ เพียงเริ่มดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จะช่วยให้การรักษาง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากตามมาในอนาคต เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน อาจพัฒนาไปสู่ภาวะที่รุนแรง เช่น ผิวเปลี่ยนสี หนาตัวขึ้น เลือดคั่ง หรือเกิดแผลเรื้อรังที่ใช้เวลารักษานานขึ้น อีกทั้งบางรายอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
การเริ่มดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการรักษาเส้นเลือดขอดให้มีประสิทธิภาพได้
สัญญาณเตือนที่ควรระวัง หากมีเส้นเลือดขอด
หากสังเกตเห็นอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินและรับการดูแลอย่างเหมาะสม เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าเส้นเลือดขอดเริ่มเป็นหนักขึ้น
- เส้นเลือดโป่งพองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
- เส้นเลือดมีลักษณะบวม ปูด และคดเคี้ยวมากกว่าเดิม ทำให้เห็นเป็นเส้นนูนสีเขียวหรือม่วงใต้ผิวหนัง
- ปวดขาเรื้อรังหรือรุนแรงขึ้น
- มีอาการปวด หนัก ตึง หรือเป็นตะคริวบ่อย โดยเฉพาะหลังยืนนานๆ จนอาจกระทบต่อการเดินหรือการทำกิจวัตรประจำวัน
- มีแผลหรือผิวหนังอักเสบ
- พบแผลเรื้อรัง รอยแดง หรือผิวคล้ำและแข็งตัวบริเวณที่เส้นเลือดขอด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ควรรีบเข้ารับการรักษา
การสังเกตอาการเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น จะช่วยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามและลดความซับซ้อนของการรักษาได้มากขึ้น

เมื่อไรควรพบแพทย์ หรือเข้ารับการรักษาเส้นเลือดขอด
- ผิวหนังเปลี่ยนสี หรือเริ่มเกิดแผลเรื้อรัง
- ผิวบริเวณเส้นเลือดขอดมีสีคล้ำ แดง ร้อน คัน หรือมีการอักเสบจนเกิดผื่น รวมถึงมีแผลที่หายยาก
- อาการปวดและบวมมากขึ้น
- ปวดหน่วงที่ขาเวลายืนหรือเดินนานๆ เป็นตะคริวกลางคืน ขาบวมชัดเจน หรือรู้สึกคันร้อนบริเวณหน้าแข้ง
- มีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตราย
- มีเลือดออกจากเส้นเลือดขอดและหยุดยาก ขาบวมแดงและร้อนมากผิดปกติ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดลิ่มเลือด
- ความมั่นใจลดลงจากลักษณะเส้นเลือดขอด
- รู้สึกกังวล ไม่กล้าใส่ขาสั้น หรือมีคนทักถึงความผิดปกติบ่อยครั้ง ส่งผลให้ไม่มั่นใจในชีวิตประจำวัน

อาการปวดจากเส้นเลือดขอด มีอะไรบ้าง
อาการปวดจากเส้นเลือดขอดมักเริ่มจากอาการเล็กน้อย แต่สามารถรบกวนชีวิตประจำวันได้มากขึ้น หากไม่ได้รับการดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ปวดเมื่อย หนักขา หรือปวดตุบๆ บริเวณขา อาการจะเด่นชัดเมื่อยืนหรือเดินเป็นเวลานาน
- เป็นตะคริว โดยเฉพาะตอนกลางคืน หลายรายมีตะคริวเป็นประจำ ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่
- อาการชาที่ขา พบได้ในผู้ที่มีเส้นเลือดขอดระยะ 2–3 โดยเฉพาะเวลาขับรถหรือเดินนานๆ
- บวมและคันบริเวณเส้นเลือดขอด เกิดจากเลือดคั่งสะสม ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ
อาการเหล่านี้มีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ หากยังคงนั่งหรือยืนนานๆ ทุกวัน เพราะเลือดจะยิ่งไหลเวียนได้ยากและคั่งในหลอดเลือดมากขึ้นนั่นเอง
วิธีดูแล และชะลอเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม
แม้ว่าเส้นเลือดขอดจะไม่สามารถหายได้ด้วยตัวเอง และสามารถลุกลามได้ แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีจะช่วยชะลออาการไม่ให้ลุกลาม และลดความเสี่ยงที่จะรุนแรงถึงขั้นผ่าตัดได้ โดยดูแลตัวเองตามคำแนะนำดังนี้
- สวมถุงน่องทางการแพทย์ หรือถุงน่องเส้นเลือดขอด ที่มีแรงดันตามความเหมาะสม ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดขาได้ดี
- หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนานเกินไป เพื่อลดแรงกดดันที่อาจส่งผลต่อลิ้นหลอดเลือดได้
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ เพื่อลดภาระต่อเส้นเลือดดำ
- เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก
- งดใส่รองเท้าส้นสูงนานเกินไป เพื่อป้องกันการกดทับเส้นเลือดบริเวณขา
- ยกขาสูงกว่าระดับหัวใจวันละ 10–15 นาที ช่วยผ่อนคลาย ลดอาการปวดและบวมได้

เส้นเลือดขอดระยะแรก รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง
การรักษาเส้นเลือดขอดมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะของอาการ แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามความรุนแรงของเส้นเลือดขอด สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลปัญหาเส้นเลือดขอดในระยะแรกถึงระยะ 3 โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักฟื้น และยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว มักมี 2 วิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่
1. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Treatment)
เป็นการใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์ช่วยปิดหลอดเลือดที่ทำงานผิดปกติ และทำให้เลือดกลับไปไหลเวียนในหลอดเลือดที่แข็งแรงแทน สำหรับขั้นตอนการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยเลเซอร์ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบตามระยะอาการ
- เส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก ยิงเลเซอร์ผ่านผิวหนังได้โดยตรง
- เส้นเลือดขนาดใหญ่ ใช้สายเลเซอร์สอดเข้าไปในหลอดเลือด
- วิธีนี้เจ็บน้อยกว่าแบบผ่าตัดใหญ่ ระยะพักฟื้นสั้น และช่วยบรรเทาอาการ เช่น ปวด บวม หนักขา ได้ในบางราย
2. ฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy)
เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในหลอดเลือดดำที่ผิดปกติโดยตรง ทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบ หดตัว และปิดลงในที่สุด
เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นเลือดฝอย และเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงปานกลาง (ระยะ C1–C3)
ขั้นตอนการรักษาใช้เวลาประมาณ 15–30 นาทีต่อครั้ง ทำเสร็จสามารถกลับไปทำกิจวัตรได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ทำให้เป็นวิธีที่นิยมใช้เป็นอย่างมากในการรักษาเส้นเลือดขอดระยะเริ่มต้น
เลือกคลินิกรักษาเส้นเลือดขอด ที่ไหนดี
การเลือกคลินิกที่เหมาะสม จะช่วยให้การรักษาเส้นเลือดขอดเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงระหว่างทำ และลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรักษา ควรพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ
-
แพทย์มีความชำนาญการ
ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ชำนาญการในการรักษาเส้นเลือดขอด มีประสบการณ์จริง และสามารถประเมินระยะเส้นเลือดขอดได้อย่างถูกต้อง -
สถานพยาบาลมีมาตรฐาน
มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน ทันสมัย และรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบและการติดเชื้อ -
รีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง
การดูผลลัพธ์และความคิดเห็นของคนไข้รายอื่น จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเห็นความน่าเชื่อถือของคลินิก -
การดูแลครบทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ประเมินอาการก่อนรักษา ไปจนถึงการติดตามอาการหลังทำอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เส้นเลือดขอดหากตรวจพบและรักษาในระยะเริ่มต้น จะดูแลง่ายกว่า และช่วยลดความเสี่ยงของอาการลุกลาม เช่น ปวดขารุนแรง ผิวคล้ำ หรือแผลเรื้อรังได้ ดังนั้น หากเริ่มมีสัญญาณผิดปกติ ควรเข้าตรวจประเมินกับแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ

บอกลาเส้นเลือดขอด ด้วยการฉีดสลาย ที่ เดอ ควีนส์
เดอควีนส์ คลินิก สาขาเพชรบุรี และสาขาชลบุรี ให้บริการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดสลายโฟมนำเข้าจากเยอรมัน มีแพทย์ชำนาญการ ดูแลโดยคุณหมอโบว์ ผู้ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สวีเดน เดนมาร์ก และญี่ปุ่น หลังรักษาสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัย และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องหลังกลับบ้าน เพื่อให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ หากมีอาการเส้นเลือดขอด สามารถปรึกษาแพทย์หรือส่งภาพประเมินเบื้องต้นได้ที่ @dequeensclinic คุณหมอจะวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล…เส้นเลือดขอด ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากรักษาอย่างถูกวิธีและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม