
โบท็อกซ์ (Botox) กับ ฟิลเลอร์ (Filler) ทั้งสองหัตถการช่วยลดริ้วรอย ชะลอวัย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า แต่มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องกลไกการทำงานและวิธีออกฤทธิ์ ใครที่สนใจอยากทำโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ แต่ไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหนดี หรือไม่รู้ว่าทั้งสองต่างกันอย่างไร และแต่ละวิธีช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
บทความนี้มีข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับทั้งโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ ช่วยให้คุณเข้าใจว่าแต่ละวิธีเหมาะกับใคร เหมาะกับปัญหาแบบไหน และสามารถทำร่วมกันได้หรือไม่ เพื่อให้คุณนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้
โบท็อกซ์ (Botox) กับ ฟิลเลอร์ (Filler) อันไหนถูกกว่า ราคาต่างกันเพราะอะไร
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มดูแลตัวเองและอยากลดริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ก่อน การพิจารณาเรื่องราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ แต่ก็ต้องดูควบคู่กับความเหมาะสมกับปัญหาของตัวเองด้วย
ในวงการความงาม ปัจจุบันมีฟิลเลอร์และโบท็อกซ์หลายยี่ห้อ ผลิตจากหลายประเทศ โดยทั่วไปสามารถแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ ฝั่งยุโรป-อเมริกา และฝั่งเอเชีย โดยผลิตภัณฑ์จากยุโรป-อเมริกามักมีราคาสูงกว่า
ฟิลเลอร์ราคาเท่าไร
สำหรับฟิลเลอร์ที่ใช้ในปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อและหลายรุ่น
ฟิลเลอร์พรีเมียมจากยุโรปและอเมริกา
- Restylane (สวีเดน)
- Juvederm (สหรัฐอเมริกา)
- Definisse (อิตาลี)
- Belotero และ Teoxane (สวิตเซอร์แลนด์)
ฟิลเลอร์กลุ่มนี้ได้รับความนิยมมายาวนาน มีมาตรฐานสูง ปลอดภัย และแพทย์ทั่วโลกยอมรับ ราคาเริ่มต้น 9,900 – 18,000 บาท ต่อ 1 CC
โบท็อกซ์ราคาเท่าไร
โบท็อกซ์ก็มีหลายยี่ห้อและหลายประเทศเช่นกัน
โบท็อกซ์พรีเมียมจากอเมริกาและยุโรป
- Allergan (สหรัฐอเมริกา)
- Dysport (อังกฤษ)
- Xeomin (เยอรมัน)
ราคาประมาณ 15,999 – 18,999 บาท ต่อ 100 ยูนิต
โบท็อกซ์จากเกาหลี
- Aestox Nabota Neuronox
ราคาประมาณ 6,999 – 9,500 บาท ต่อ 100 ยูนิต
ราคาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและเทคนิคการฉีดด้วย เพราะแต่ละจุดบนใบหน้าจะใช้จำนวนยูนิตไม่เท่ากัน
ทำไมราคาฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกัน
ความแตกต่างนั้นมาจากกระบวนการผลิตและกลไกการออกฤทธิ์ รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังการรักษาก็ต่างกัน
- โบท็อกซ์ ออกฤทธิ์โดยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เหมาะกับริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ เช่น หน้าผาก หรือหางตา
- ฟิลเลอร์ เติมเต็มใต้ผิวหนัง ช่วยปรับรูปหน้า เติมร่องลึก หรือแก้มตอบ
แม้ทั้งสองหัตถการจะมีเป้าหมายคล้ายกัน คือ ลดริ้วรอยและคืนความอ่อนเยาว์ แต่รายละเอียดและคุณสมบัติในการแก้ปัญหาของแต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ฟิลเลอร์ กับ โบท็อกซ์ คำจำกัดความง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจความเหมือนและความต่าง
ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์มีคุณสมบัติแตกต่างกัน คราวนี้เรามาลงลึกถึงรายละเอียดของทั้งสองหัตถการ
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารฉีดเพื่อ "เติมเต็ม"
คำจำกัดความง่ายๆ ของฟิลเลอร์ คือ ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มจุดที่ลึก บุ๋ม หรือยุบ โดยหมอจะใช้ฟิลเลอร์ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็ม ทำให้จุดนั้นตื้นขึ้นหรือปรับสมดุลของใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ขมับที่ตอบยุบ ฟิลเลอร์ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ร่องใต้ตาที่ลึกจนตาโหลกลับมาเรียบเนียน และช่วยเติมขมับที่ตอบยุบให้เต็มอิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูละมุน ไม่แข็ง หรือดูโทรมแก่
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถฉีดเสริมรูปหน้า เสริมคางเพื่อปรับรูปหน้าให้ยาวขึ้น ฉีดปากเพื่อให้ปากอิ่มเอิบ หรือเสริมหน้าผากให้โหนกนูนขึ้น
โบท็อกซ์ (Botox) คือ สาร "คลายกล้ามเนื้อ" ลดรอยย่น คลี่รอยพับ
โบท็อกซ์มีคุณสมบัติในการลดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว หลังฉีดบริเวณที่มีริ้วรอย โดยจะไปขัดขวางการทำงานของสารสื่อประสาท (Acetylcholine) ที่ปลายเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว
ผลลัพธ์คือ ลดรอยย่นและคลี่รอยพับได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น รอยตีนกา ริ้วรอยขมวดคิ้ว หรือริ้วรอยบริเวณดั้งจมูกฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สามารถฉีดบริเวณเดียวกัน แต่แก้ปัญหาคนละอย่าง
จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรเลือกฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ก่อนอื่นคนไข้ควรทำความเข้าใจกับริ้วรอยบนใบหน้าก่อน ริ้วรอยบนใบหน้าสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ
- ริ้วรอยแบบไดนามิก (Dynamic Wrinkles) เป็นรอยย่นที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นเมื่อหลับตาปี๋หรือรอยย่นบนหน้าผากจากการเลิกคิ้วบ่อยๆ ริ้วรอยประเภทนี้เหมาะกับการรักษาด้วย โบท็อกซ์ เพราะเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ โบท็อกซ์สามารถคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ทำให้รอยย่นลดลงและเรียบเนียนขึ้น
- ริ้วรอยแบบสแตติก (Static Wrinkles) เป็นรอยย่นที่เกิดขึ้นแม้ใบหน้าอยู่เฉยๆ ผิวก็ยังมีรอยยับหรือร่องลึก เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ใต้ผิว ทำให้ชั้นผิวบางหรือบุ๋มลงจนเกิดรอยลึกที่เห็นชัด แม้ไม่ได้ยิ้มหรือแสดงสีหน้าใดๆ ริ้วรอยประเภทนี้จำเป็นต้องใช้ ฟิลเลอร์ เติมเต็มเพื่อให้ผิวกลับมาตื้นเรียบและสมดุล
สำหรับการเห็นผลหลังฉีด ฟิลเลอร์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ ส่วนโบท็อกซ์จะต้องรอเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะเห็นผลชัดเจน เพราะต้องให้กล้ามเนื้อคลายตัวก่อน
โบท็อกซ์ Vs ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร
| คุณสมบัติ | โบท็อกซ์ (Botox) | ฟิลเลอร์ (Filler) |
|---|---|---|
| สารออกฤทธิ์ | Botulinum Toxin Type A (โปรตีน) | Hyaluronic Acid (สารอุ้มน้ำ) |
| กลไกการทำงาน | คลายกล้ามเนื้อ ลดการหดตัว | เติมเต็มร่องลึก เพิ่มปริมาตร |
| เหมาะกับริ้วรอย | ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic) | ริ้วรอยที่เป็นร่องลึกอยู่แล้ว (Static) |
| หน่วยนับ | ยูนิต (Unit) | ซีซี (CC) |
| การเห็นผล | เริ่มเห็นผลใน 3–4 วัน ชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ | เห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ |
| ผลลัพธ์คงอยู่ | ประมาณ 4–6 เดือน | ประมาณ 6–24 เดือน |
| การสลาย | สลายได้เองตามธรรมชาติ | สลายได้เองตามธรรมชาติ (และมีตัวยาสลายได้) |
| บริเวณที่นิยม | หน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา ลดกราม | ใต้ตา ร่องแก้ม ขมับ คาง ปาก |
ถ้าต้องเลือก 1 อย่าง ฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดีกว่า
ฟิลเลอร์และโบท็อกซ์มีความเหมาะสมในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน หากต้องเลือกทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรพิจารณาจากปัญหาของคนไข้เป็นหลัก ว่าต้องการเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า หรือคลายริ้วรอยจากการขยับกล้ามเนื้อ
ฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์พร้อมกันได้ไหม
การฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์สามารถทำร่วมกันได้ การทำพร้อมกันช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดีขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคนไข้มีร่องแก้มลึก ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มกระดูกหรือเนื้อที่ยุบตัวในร่องแก้มให้ตื้นขึ้น แต่บางครั้งร่องแก้มลึกเกิดจากการยิ้มบ่อย ทำให้กล้ามเนื้อดึงร่องแก้มเกินไป ในกรณีนี้หมออาจแก้ไขด้วยโบท็อกซ์ปริมาณเล็กน้อย เพื่อให้เส้นเอ็นของกล้ามเนื้อคลายตัว ร่องแก้มจึงดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและผลลัพธ์อาจคงอยู่ได้นานกว่า
ถ้าทำพร้อมกัน ควรฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ก่อน
ลำดับการฉีดขึ้นอยู่กับปัญหาและโครงสร้างใบหน้าในแต่ละเคส แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนก่อนว่าควรฉีดตัวไหนก่อนหลัง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่า ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์อันตรายไหม
ในความเป็นจริง ทั้งสองหัตถการมีความปลอดภัยสูง หากทำอย่างถูกวิธี
- ฟิลเลอร์ ในทางการแพทย์ไม่ถือเป็นสารแปลกปลอม เพราะ HA (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว แม้จะเติมเพิ่มไปก็สามารถสลายตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป
- โบท็อกซ์ หากเป็นโบท็อกซ์แท้ที่ได้มาตรฐาน จะสลายเองได้หมด ไม่มีสารตกค้าง จึงมีความปลอดภัยสูงเช่นกัน
ความอันตรายที่เคยพบตามข่าวมักเกิดจากการฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือโบท็อกซ์ปลอม ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีด ต้องมั่นใจว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาแท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เท่านั้น
ฟิลเลอร์ (Filler) และโบท็อกซ์ (Botox) เป็นหัตถการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ De Queens Clinic เราให้บริการทั้งฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า และโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ด้วยตัวยาแท้และเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละบุคคล หมอจะประเมินปัญหาและแนะนำหัตถการที่ตรงจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ สามารถส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic (หมอตอบเอง) หรือ Walk in เข้ารับบริการได้ที่ เดอควีนส์ คลินิก สาขาชลบุรี และสาขาเพชรบุรี