รักษาเส้นเลือดขอดแบบไหนดี ระหว่างฉีดโฟม กับ คลื่นวิทยุ?

รักษาเส้นเลือดขอดแบบไหนดี ระหว่างฉีดโฟม กับ คลื่นวิทยุ?

การรักษาเส้นเลือดขอดในปัจจุบันค่อนข้างมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีที่ใช้ในการรักษาจำเป็นต้องขึ้นอยู่กับขนาด ระยะอาการเส้นเลือดขอด และลักษณะของเส้นเลือดนั้นๆ ทั้งนี้จึงต้องได้รับการปรึกษาจากแพทย์ที่มีความชำนาญการ เพื่อเลือกวิธีการรักษาอย่างเหมาะสมกับอาการของคนไข้แต่ละบุคคล บทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดโฟม (Foam Sclerotherapy) กับการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Ablation - RFA) ทั้ง 2 วิธี มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง? พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด คืออะไร

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เป็นวิธีการรักษาเส้นเลือดขอดโดยแพทย์จะนำตัวยา (Sclerosant) ที่ได้รับการรับรองจาก อย. มาฉีดเข้าไปยังหลอดเลือดดำที่มีปัญหาโดยตรง ยาสลายเส้นเลือดขอดมีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มยา Detergent sclerosants กลุ่มยา Chemical irritants และกลุ่มยา Hyperosmotic agent ตัวยาสามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบน้ำและรูปแบบโฟม

เมื่อฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำ ตัวยาจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังภายในหลอดเลือดเกิดการอักเสบและเสียหาย ส่งผลให้เส้นเลือดเกิดการตีบตันและฝ่อตัวลงในที่สุด จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ดูดซึมและกำจัดเส้นเลือดที่ฝ่อนั้นออกไป การฉีดสลายเส้นเลือดขอดเป็นวิธีการรักษาที่ตอบโจทย์คนไข้จำนวนมาก เนื่องจากสามารถรักษาเส้นเลือดขอดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และใช้เวลาในการรักษาไม่นาน หลังทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันที่บ้านได้ปกติ (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)

วิดีโอ ฉีดสลายเส้นเลือดขอด คืออะไร

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด แบบโฟม คืออะไร

การฉีดสลายเส้นเลือดขอดแบบโฟม จะเป็นการนำตัวยาในกลุ่ม Detergent sclerosants (เช่น Polidocanol ซึ่งมีชื่อการค้า เช่น Aethoxysklerol® 1% และ 3%) มาผสมกับอากาศหรือแก๊สทางการแพทย์ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดฟองละเอียดคล้ายโฟมโกนหนวด ซึ่งอาจเป็นสูตรเฉพาะของแพทย์ในการเตรียมสำหรับคนไข้แต่ละบุคคล

เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสลายเส้นเลือดขอดในบางกรณี เนื่องจากโฟมสามารถแทนที่เลือดในหลอดเลือดและสัมผัสกับผนังหลอดเลือดได้ดีกว่าชนิดที่เป็นของเหลว โดยเฉพาะในเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงขนาดกลาง และอาจช่วยให้ยาสามารถกระจายตัวรักษาพื้นที่ได้กว้างกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบน้ำในปริมาณยาที่เท่ากัน

วิดีโอ รีวิว ฉีดสลายเส้นเลือดขอดคุณแง่

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด แบบโฟม ดียังไง

การฉีดสลายเส้นเลือดขอดด้วยโฟมนำเข้าจากเยอรมัน (เช่น Aethoxysklerol®) เป็นวิธีการที่ค่อนข้างง่าย สะดวก และเจ็บตัวน้อย สามารถใช้รักษาเส้นเลือดขอดได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (Spider Veins) จนถึงระยะ C3 (เส้นเลือดปูดนูน มีอาการขาบวม) กล่าวคือ เหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง แต่หากเป็นเส้นเลือดขอดในระยะรุนแรงมาก หรือเส้นเลือดขอดมีขนาดใหญ่เกินไป แพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษาอื่น เช่น การผ่าตัด

ข้อดีของตัวยาในรูปแบบโฟมคือเหมาะกับเส้นเลือดขอดลักษณะใยแมงมุมที่กระจายเป็นบริเวณกว้าง การฉีดสลายด้วยโฟม 1 ครั้ง อาจสามารถครอบคลุมพื้นที่เส้นเลือดขอดได้กว้าง ทำให้ไม่ต้องฉีดหลายจุดหรือถี่เกินไป

วิดีโอ ทำไมต้องใช้ตัวยานำเข้าจากประเทศเยอรมัน

นอกจากนี้ การฉีดสลายเส้นเลือดขอด ยังใช้เวลาทำหัตถการเพียง 15-30 นาทีต่อครั้ง และสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ โดยเส้นเลือดฝอยเล็กๆ อาจจางลงค่อนข้างเร็ว ส่วนเส้นเลือดขอดที่โป่งพองจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์หรือนานกว่านั้นจึงจะยุบตัวลงอย่างชัดเจน เมื่อเวลาผ่านไปเส้นเลือดขอดที่รักษาแล้วจะค่อยๆ สลายหายไป โอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของเส้นเลือดเส้นเดิมที่รักษาไปแล้วมีน้อย หากดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างดี เช่น หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ หรือยกของหนักในช่วงแรกหลังทำ หมั่นออกกำลังกายด้วยการเดินเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และแม้ว่าจะสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่หากยังมีพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดเส้นเลือดขอด ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น และอาจสวมถุงน่องเส้นเลือดขอดตามที่แพทย์แนะนำ

ข้อเสียของการฉีดสลายเส้นเลือดขอด แบบโฟมมีอะไรบ้าง (ข้อห้ามและข้อควรระวัง)

ถึงแม้ว่าการฉีดสลายเส้นเลือดขอดจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายๆ ท่าน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวัง แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น การฉีดสลายเส้นเลือดขอดอาจไม่เหมาะกับกลุ่มบุคคลต่อไปนี้

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่มาก หรือมีการรั่วของลิ้นหลอดเลือดดำหลัก ซึ่งอาจต้องรักษาด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสมกว่า
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของยาฉีดสลาย (Sclerosant) หรือยาชา (หากใช้ร่วม)
  • สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร (แพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดสลายเส้นเลือดขอด)
  • ไม่เหมาะกับผู้ป่วยติดเตียง หรือไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน (PAD) หรือมีภาวะหลอดเลือดดำอุดตันเฉียบพลัน (Active DVT)
  • แพทย์จะไม่ฉีดกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการแข็งตัวของเลือด หรือกำลังรับประทานยาสลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด (เช่น Warfarin Aspirin หรือยาอื่นๆ) ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษาทุกครั้ง
  • ไม่เหมาะกับคนไข้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะทำการฉีด หรือมีการติดเชื้อรุนแรงในระบบร่างกาย
  • อาจมีอาการข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง รอยช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป
  • อาจมีอาการแพ้ยาที่ฉีด เช่น เกิดรอยแดง ผื่น อาการคัน ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อย และแพทย์มักสอบถามประวัติการแพ้ยาอย่างละเอียดก่อนทำการฉีด

สำคัญมาก ก่อนรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดสลายทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ โดยการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่รับประทานทั้งหมด และประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ประเมินการรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อคนไข้ได้

วิดีโอ ฉีดสลายเส้นเลือดขอด มีผลข้างเคียงไหม

ฉีดสลายเส้นเลือดขอด แบบโฟม เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการรักษาเส้นเลือดขอดแบบไม่ต้องผ่าตัด และไม่สะดวกพักฟื้นนาน
  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการรักษาเส้นเลือดขอดตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม
  • คนไข้ที่มีเส้นเลือดขอดระยะแรก (C1) ถึงระยะ C3 ซึ่งแพทย์ประเมินแล้วว่าเหมาะสม
  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการวิธีรักษาที่ใช้เวลาน้อย สะดวก รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ดี
  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการรักษาเส้นเลือดขอดในงบประมาณที่จำกัด เพราะราคาเริ่มต้นที่หลักพัน (ขึ้นอยู่กับปริมาณยา)
  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการชะลออาการเส้นเลือดขอด ไม่ให้ลุกลาม สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาบางส่วนที่สำคัญก่อนได้
  • เหมาะกับคนไข้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในการแต่งตัวเพราะมีเส้นเลือดขอด
  • เหมาะกับคนไข้ที่เป็นเส้นเลือดขอดแล้วมีอาการ เช่น ขาชา เป็นตะคริว ปวดขาเวลาเดินหรือขับรถ
  • เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการรักษาเส้นเลือดขอดแบบเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจน และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของเส้นเดิม

รักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นวิทยุ คืออะไร

การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ หรือ Radiofrequency Ablation (RFA) เป็นวิธีการรักษาเส้นเลือดขอดจากภายในหลอดเลือด (Endovenous Ablation) โดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุเพื่อทำให้หลอดเลือดดำที่ขอดนั้นปิดและฝ่อไป เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยแพทย์จะสอดสายสวน (catheter) ขนาดเล็กที่มีขั้วปล่อยคลื่นวิทยุที่ปลายเข้าไปในหลอดเลือดขอดที่มีปัญหา (มักเป็นหลอดเลือดดำหลัก เช่น Great Saphenous Vein) ผ่านการเจาะด้วยเข็มขนาดเล็กที่ผิวหนัง

เครื่องจะแปรพลังงานจากคลื่นวิทยุเป็นความร้อน (ประมาณ 120 องศาเซลเซียส) ความร้อนนี้จะทำให้ผนังหลอดเลือดดำหดตัว เกิดการอักเสบ และเกิดพังผืดปิดหลอดเลือดนั้น ทำให้เลือดไม่สามารถไหลผ่านได้อีกต่อไป และหลอดเลือดนั้นจะค่อยๆ ฝ่อสลายไป

การรักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นวิทยุ มีวิธีการยังไงบ้าง

การรักษาด้วย RFA มักทำภายใต้การให้ยาชาเฉพาะที่ และอาจมีการให้ยานอนหลับอย่างอ่อน ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวแต่ไม่เจ็บปวด แพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวด์นำทางในการสอดสายสวนเข้าไปยังหลอดเลือดดำเป้าหมาย เมื่อสายสวนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง แพทย์จะเริ่มปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุเป็นช่วงๆ พร้อมกับค่อยๆ ดึงสายสวนกลับตามแนวหลอดเลือดเพื่อปิดหลอดเลือดตลอดความยาวที่ต้องการ หลังทำหัตถการ แผลเจาะจะถูกกดไว้เพื่อให้เลือดหยุดไหล ไม่จำเป็นต้องเย็บแผล การรักษาด้วย RFA มักใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หลังการรักษา ผู้ป่วยบางรายอาจสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน หรืออาจต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

รักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นวิทยุ ดียังไง

  • สามารถรักษาเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ที่เป็นต้นตอของปัญหาได้ (เช่น Great Saphenous Vein)
  • แผลมีขนาดเล็กมาก (เท่ารูเข็ม) เสียเลือดน้อย
  • ผลลัพธ์หลังการรักษา เส้นเลือดขอดที่รักษาจะค่อยๆ ยุบลง โดยอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนใน 6-8 สัปดาห์
  • อาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการเส้นเลือดขอดในระยะรุนแรง (เช่น C4) ที่การฉีดสลายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

ข้อเสียของการรักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นวิทยุ

  • จำเป็นต้องสวมถุงน่องรัดหลังทำ เพื่อลดอาการช้ำและป้องกันลิ่มเลือด
  • อาจมีข้อจำกัดในการเดินทาง (เช่น ขึ้นเครื่องบิน) ในช่วงแรกหลังทำ
  • ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น การติดเชื้อที่แผล (พบได้น้อย) รอยช้ำ อาการตึง ชา หรือการอักเสบของหลอดเลือดดำหรือเส้นประสาทใกล้เคียง
  • อาจต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 วันในบางกรณี
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าการฉีดสลายฯ มาก (อาจเริ่มต้นที่หลายหมื่นบาทต่อข้าง)

การรักษาเส้นเลือดขอดด้วย RFA เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ช่วยบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ดี

รักษาเส้นเลือดขอด ด้วยคลื่นวิทยุ เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ และมีการรั่วของลิ้นหลอดเลือดดำหลัก
  • เหมาะกับผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดในระยะที่การฉีดสลายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ (เช่น C4 ที่มีผิวหนังเปลี่ยนแปลง) และอาจพิจารณาการรักษาด้วยวิธีนี้
  • เหมาะกับคนไข้ที่เป็นเส้นเลือดขอดลักษณะปูดนูน ขดเคี้ยว ที่เกิดจากหลอดเลือดดำหลัก และไม่ต้องการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
  • เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการมีแผลเป็นขนาดใหญ่หลังการรักษา

รักษาเส้นเลือดขอดแบบไหนดี ระหว่างฉีดโฟม กับ คลื่นวิทยุ?

การรักษาเส้นเลือดขอดมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาด ชนิด และสาเหตุของเส้นเลือดขอดนั้นๆ ทั้งนี้จะต้องได้รับการปรึกษาจากแพทย์ที่มีความชำนาญการ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้แต่ละราย

  • การฉีดสลายด้วยโฟม (Foam Sclerotherapy) เหมาะกับคนไข้ที่เป็นเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงปานกลาง เช่น เส้นเลือดฝอย (Spider Veins C1) หรือเส้นเลือดขอดขนาดปูดเขียวที่ยังไม่ใหญ่มากนัก (C2 หรือ C3 บางราย)
  • การรักษาด้วยคลื่นวิทยุ (RFA) เหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดที่เป็นต้นตอขนาดใหญ่ (เช่น Great Saphenous Vein) ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่มีอาการระยะ C2 ขึ้นไปจนถึง C4 หรือสูงกว่า ที่การฉีดสลายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

ดังนั้น การรักษาด้วย RFA จึงมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และอาจต้องพักฟื้นนานกว่าการฉีดสลายฯ เล็กน้อย แต่ให้ผลในการรักษาเส้นเลือดดำหลักได้ดี ผลลัพธ์การยุบตัวของเส้นเลือดอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนจึงจะเห็นผลเต็มที่ ในขณะที่การฉีดสลายฯ จะมีค่าใช้จ่ายที่เข้าถึงง่ายกว่า ผลข้างเคียงน้อยกว่า และอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือดฝอยได้เร็วกว่า โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน

ทำไมถึงต้องมารักษาเส้นเลือดขอด ที่ เดอควีนส์

กราฟิก รีวิวรักษาเส้นเลือดขอด คุณบิวจากออสเตรเลีย

สำหรับผู้ที่มีอาการเส้นเลือดขอดในระยะเริ่มต้นถึงระยะ C3 และต้องการรักษาเส้นเลือดขอดแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ที่เดอควีนส์ คลินิก มีบริการฉีดสลายเส้นเลือดขอดที่ดูแลโดยคุณหมอโบว์ แพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาเส้นเลือดขอดมาแล้วกว่า 10 ปี คุณหมอได้นำตัวยามาตรฐานจากเยอรมันมาใช้ในเทคนิคการฉีดแบบโฟม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา จึงมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยต่อคนไข้ ทั้งนี้จะมีการให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังทำ รวมถึงมีการติดตามผลการรักษาของคนไข้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้ทุกท่านจะมีสุขภาพขาที่ดีในระยะยาว

สำหรับใครที่พบปัญหาเส้นเลือดขอด อย่าปล่อยไว้ให้ลุกลามจนอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาที่หนักกว่าเดิม สามารถส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้น ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ Line: @dequeensclinic (หมอตอบเอง) หรือสามารถ Walk in ได้แล้วทั้ง 2 สาขา ได้แก่ คลินิกความงามสาขาชลบุรี และคลินิกความงามสาขาเพชรบุรี