ข้อห้ามในการฉีดสลายเส้นเลือดขอด มีอะไรบ้าง?

ข้อห้ามในการฉีดสลายเส้นเลือดขอด มีอะไรบ้าง?

ถึงแม้ว่าการฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการรักษาเส้นเลือดขอดได้ดี โดยเฉพาะเส้นเลือดขอดขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่ก็ยังมีข้อควรระวังและข้อห้ามบางประการ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับการรักษา ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล ว่าคนไข้สามารถรักษาโดยการฉีดสลายได้หรือไม่ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับวิธีการรักษาด้วยการฉีดสลาย ข้อบ่งชี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อห้าม ในการฉีดสลายเส้นเลือดขอด เพื่อให้คุณเตรียมตัวและให้ข้อมูลกับแพทย์ได้อย่างครบถ้วน แนะนำให้แจ้งประวัติการรักษา รายละเอียดโรคประจำตัว และยาที่ใช้ประจำให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดก่อนทำการรักษาเสมอ

เส้นเลือดขอด คืออะไร?

เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำที่ขาโป่งพอง ขด หรือมีสีเขียวคล้ำ มองเห็นได้ชัดเจน เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติหรือล้มเหลวของลิ้นภายในหลอดเลือดดำ ซึ่งปกติทำหน้าที่ป้องกันเลือดไหลย้อนกลับ เมื่อลิ้นหลอดเลือดเสื่อมสภาพหรือเสียหาย เลือดจึงไหลย้อนกลับและคั่งค้างอยู่ในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัวออกจนกลายเป็นเส้นเลือดขอด ในระยะเริ่มต้นอาจเห็นเป็นเพียงเส้นเลือดฝอยเล็กๆ สีแดงหรือม่วงคล้ำ คล้ายเส้นใยแมงมุม (Spider Veins)

(ภาพ : เส้นเลือดขอดลักษณะใยแมงมุม Spider Veins)

หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อาการอาจรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ปวดขา, ขาหนัก, เป็นตะคริวตอนกลางคืน, ขาบวม, ผิวหนังบริเวณข้อเท้าคล้ำหรือแข็งขึ้น และในระยะท้ายอาจเกิดแผลเรื้อรังที่รักษาหายยากได้

(ภาพ : เส้นเลือดขอดลักษณะปูด เขียว โป่งพอง)

ระยะเส้นเลือดขอด (CEAP Classification)

เส้นเลือดขอด แม้ส่วนใหญ่ไม่ร้ายแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น ลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งบางกรณีอาจเป็นอันตราย การทำความเข้าใจระยะของโรคช่วยให้วางแผนการรักษาได้เหมาะสม โดยแบ่งเป็น 6 ระยะหลัก (C0-C6)

  •  ระยะที่ 1 (C1): มองเห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆ คล้ายใยแมงมุม (Spider Veins หรือ Telangiectasias) ขนาดไม่เกิน 3 มม. มักไม่มีอาการปวด สามารถรักษาได้ผลดีด้วยการฉีดสลายฯ
  • ระยะที่ 2 (C2): เส้นเลือดขอดมีลักษณะปูดนูน เป็นเส้นเลือดเขียวๆ ขดไปมา ขนาดใหญ่กว่า 3 มม. อาจเริ่มมีอาการเมื่อยล้าหรือปวดขาเล็กน้อย
  • ระยะที่ 3 (C3): มีอาการขาบวมร่วมด้วย (Edema) บวมมากขึ้นช่วงเย็นหรือหลังยืนนานๆ
  • ระยะที่ 4 (C4): ผิวหนังบริเวณข้อเท้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น สีคล้ำขึ้น (Hyperpigmentation), ผิวหนังอักเสบ (Eczema), หรือผิวหนังแข็งด้าน (Lipodermatosclerosis)
  • ระยะที่ 5 (C5): มีประวัติเคยเป็นแผลหลอดเลือดดำ (Venous Ulcer) แต่แผลหายแล้ว
  • ระยะที่ 6 (C6): มีแผลหลอดเลือดดำที่ยังเปิดอยู่ (Active Venous Ulcer) มักพบบริเวณตาตุ่ม รักษาหายยาก

(กราฟิก : 6 ระยะ เส้นเลือดขอด รักษาถูกวิธีลดโอกาสลุกลาม)

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด คืออะไร?

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เป็นวิธีการรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอย โดยไม่ต้องผ่าตัด แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารละลายชนิดพิเศษ (Sclerosant) เข้าไปในหลอดเลือดดำที่มีปัญหาโดยตรง ตัวยาจะทำให้ผนังภายในหลอดเลือดเกิดการอักเสบและเสียหาย ทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตันและฝ่อไปในที่สุด จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ดูดซึมและกำจัดเส้นเลือดที่ฝ่อนั้นออกไปเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน เพราะหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)

การฉีดสลายสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบน้ำยา (Liquid Sclerotherapy) และรูปแบบโฟม (Foam Sclerotherapy) โดยแพทย์อาจเลือกทำเป็นรูปแบบโฟมในบางกรณี (ผสมยาเข้ากับอากาศหรือแก๊ส) เนื่องจากเชื่อว่าโฟมสามารถแทนที่เลือดและสัมผัสกับผนังหลอดเลือดได้ดีกว่าในเส้นเลือดบางขนาด

ทำไมการฉีดสลายเส้นเลือดขอดถึงเป็นที่นิยม?

  • ไม่ต้องผ่าตัด เป็นหัตถการที่ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่มีแผลผ่าตัด
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เลย
  • เจ็บน้อย ใช้เข็มขนาดเล็กมาก ความรู้สึกเจ็บมีเพียงเล็กน้อย
  • ใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไปใช้เวลาทำประมาณ 15-30 นาทีต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับปริมาณเส้นเลือด)
  • เห็นผลลัพธ์ สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ โดยเส้นเลือดจะค่อยๆ จางลงและหายไปในระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
  • ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ (ของเส้นเดิม) เส้นเลือดที่ถูกฉีดสลายและฝ่อไปแล้ว จะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก แต่เส้นเลือดขอดใหม่อาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณอื่นหากปัจจัยเสี่ยงยังคงอยู่
ผลลัพธ์หลังการฉีดจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เส้นเลือดจะค่อยๆ จางและยุบลง การดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใส่ถุงน่องรัด การเดินออกกำลังกาย และการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดโอกาสการเกิดเส้นเลือดขอดใหม่

ข้อห้ามในการฉีดสลายเส้นเลือดขอด มีอะไรบ้าง?

แม้ว่าการฉีดสลายจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อห้ามและข้อควรระวังบางประการที่แพทย์จะพิจารณา เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย ได้แก่
  1. ประวัติแพ้สารที่ใช้ฉีด ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Sclerosant ที่จะใช้ หรือแพ้ยาชา (หากมีการใช้ร่วม) ถือเป็นข้อห้ามสำคัญ
  2. ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำชั้นลึก (Deep Vein Thrombosis - DVT) หรือลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด (Pulmonary Embolism - PE) ในปัจจุบันหรือเพิ่งเป็นมาไม่นาน
  3. โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน (Peripheral Artery Disease - PAD) การฉีดสลายอาจทำให้อาการของโรคนี้แย่ลงได้
  4. การตั้งครรภ์ ถือเป็นข้อห้ามโดยทั่วไปในการทำ Sclerotherapy
  5. การให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เนื่องจากยายังอาจผ่านทางน้ำนมได้บ้าง
  6. ภาวะเคลื่อนไหวไม่ได้ (Immobility) ผู้ป่วยติดเตียง หรือไม่สามารถเดินได้ มีความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันสูงขึ้นหลังทำ
  7. การติดเชื้อ มีการติดเชื้อรุนแรงทั่วร่างกาย หรือมีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะทำการฉีด
  8. โรคหัวใจบางชนิด เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวรุนแรง หรือรูรั่วผนังกั้นหัวใจห้องบน (Patent Foramen Ovale - PFO) ชนิดที่มีอาการ อาจเป็นข้อควรระวังในการทำ Foam Sclerotherapy (แพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล)
  9. การใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) เช่น Warfarin, Heparin หรือยาในกลุ่ม DOACs อาจต้องพิจารณาปรับยาหรือใช้วิธีการรักษาอื่น (ปรึกษาแพทย์ผู้สั่งยาและแพทย์ที่จะทำการฉีดสลายฯ)
กล่าวโดยสรุป ก่อนทำการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดสลายทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานทั้งหมด และประวัติการแพ้ยาอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง

หลังฉีดสลายเส้นเลือดขอด ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลข้างเคียง การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญมาก
  1. ใส่ถุงน่องทางการแพทย์ สำคัญที่สุด! ต้องใส่ถุงน่องรัดตามระดับแรงรัดและระยะเวลาที่แพทย์กำหนด (อาจต่อเนื่องหลายวันถึงหลายสัปดาห์) เพื่อช่วยกดให้ผนังหลอดเลือดที่ฉีดติดกัน ลดการอักเสบ และส่งเสริมการไหลเวียนเลือด
  2. เดินออกกำลังกาย ควรเดินอย่างน้อย 15-30 นาที ทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันแรกหลังฉีด เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
  3. หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งนานๆ พยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ทุก 30-60 นาที หากต้องยืนนาน ให้ย่ำเท้าหรือเขย่งปลายเท้าสลับกัน
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก งดยกของหนัก หรือออกกำลังกายหักโหม ในช่วง 3-7 วันแรก หรือตามแพทย์สั่ง
  5. หลีกเลี่ยงความร้อน งดอาบน้ำร้อนจัด ซาวน่า แช่น้ำอุ่น หรือตากแดดจัด ในช่วงสัปดาห์แรก เพราะความร้อนอาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว
  6. ยกขาสูง ระหว่างวันหาเวลาพักโดยยกขาสูง ตอนกลางคืนนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจ
  7. ดูแลผิว รักษาความสะอาดผิวหนัง ทาครีมให้ความชุ่มชื้นเพื่อป้องกันผิวแห้ง
  8. สังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีดมากขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่ากังวล ควรรีบติดต่อแพทย์
  9. พบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลการรักษาและประเมินว่าต้องทำการรักษาเพิ่มเติมหรือไม่
กล่าวโดยสรุป ก่อนทำการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดสลายทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ แจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานทั้งหมด และประวัติการแพ้ยาอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง

ผลลัพธ์หลังฉีดสลายเส้นเลือดขอด

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด โดยเฉพาะด้วยเทคนิคโฟม เป็นวิธีการรักษาที่สะดวก เจ็บน้อย สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ โดยเส้นเลือดที่ฉีดจะค่อยๆ จางลงและยุบไปในระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน การดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ

(ภาพ : Before After ก่อน และหลังรักษาเส้นเลือดขอด)

เลือกฉีดสลายเส้นเลือดขอด ที่ไหนดี?

การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการฉีดสลาย ควรทำโดยแพทย์ผู้มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ควรเลือกคลินิกที่

  • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดหรือมีประสบการณ์ในการฉีดสลายโดยตรง
  • คลินิกได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย มีใบอนุญาตถูกต้อง
  • มีการประเมินคนไข้อย่างละเอียดก่อนทำ
  • ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา ผลข้างเคียง และการดูแลตัวเองอย่างครบถ้วน
  • มีรีวิว หรือผลการรักษาที่น่าเชื่อถือ
เดอควีนส์ คลินิก คลินิกความงามเพชรบุรี และคลินิกความงามชลบุรี ให้บริการรักษาเส้นเลือดขอดโดยการฉีดสลายด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย รักษาโดยคุณหมอโบว์ ผู้มีประสบการณ์ในการรักษาเส้นเลือดขอดมาแล้วหลายเคส ยาวนานกว่า 10 ปี เราเน้นการประเมินคนไข้อย่างละเอียดเป็นรายบุคคล เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
สนใจเข้ารับการรักษา ปรึกษาแพทย์ หรือส่งภาพเพื่อให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเองค่ะ