ฉีดสลายเส้นเลือดขอดโดยใช้ยา ในรูปแบบน้ำ กับรูปแบบโฟม แตกต่างกันอย่างไร?

เส้นเลือดขอด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยโดยทั่วไป เนื่องจากสาเหตุหลักของการเกิดเส้นเลือดขอด มักเกิดจากพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำในกิจวัตรประจำวัน เช่น ยืนนานๆ เดินบ่อยๆ หรือแม้กระทั่งใส่รองเท้าส้นสูง ก็ทำให้เราเป็นเส้นเลือดขอดได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ หลายคนอาจกำลังมองหาวิธีรักษาที่นอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณแล้ว ยังต้องอำนวยความสะดวกในการรักษา และหนึ่งในวิธีการรักษาเส้นเลือดขอดที่ให้ผลลัพธ์ดีและเป็นที่นิยม ก็คือการฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เพราะเป็นวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักฟื้นนาน เพียงใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 15-30 นาที และสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับเทคนิคเฉพาะของแพทย์และการตอบสนองของแต่ละบุคคล การเลือกใช้สารฉีดจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การรักษาเส้นเลือดขอดได้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการรักษาที่ซับซ้อนกว่า โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการรักษาและความปลอดภัยเป็นสำคัญ

บทความนี้จึงจะมาเจาะลึก ตอบข้อสงสัยที่หลายคนมักถามกันเข้ามาบ่อยครั้ง ว่าการฉีดสลายนั้นใช้ยาสูตรน้ำหรือสูตรโฟม แต่ละสูตรต่างกันยังไง? สูตรไหนเหมาะกับใคร? มีคำตอบที่ด้านล่างนี้

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด (Sclerotherapy) เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาเส้นเลือดขอด โดยแพทย์จะนำตัวยา (Sclerosant) ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศไทย มาฉีดเข้าไปยังหลอดเลือดดำที่มีปัญหาโดยตรง ตัวยาสามารถใช้ได้ทั้งในรูปแบบน้ำและรูปแบบโฟม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสลายเส้นเลือดขอดในบางกรณี แพทย์อาจนำยามาเตรียมเป็นรูปแบบโฟม เนื่องจากเชื่อว่าโฟมสามารถแทนที่เลือดและสัมผัสกับผนังหลอดเลือดได้ดีกว่าในเส้นเลือดบางขนาด เมื่อฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำ ตัวยาจะทำให้ผนังภายในหลอดเลือดเกิดการอักเสบและเสียหาย ทำให้เส้นเลือดเกิดการตีบตันและฝ่อไปในที่สุด จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ดูดซึมและกำจัดเส้นเลือดที่ฝ่อนั้นออกไป การฉีดสลายเส้นเลือดขอดจึงเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถรักษาเส้นเลือดขอดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และใช้เวลาในการรักษาไม่นาน หลังทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)

วิดีโอ ฉีดสลายเส้นเลือดขอด ดียังไง

การฉีดสลายเส้นเลือดขอดในรูปแบบโฟม เป็นเทคนิคที่แพทย์อาจเลือกใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา โดยนำยา Sclerosant มาผสมกับอากาศหรือแก๊สทางการแพทย์เพื่อทำให้เกิดฟองละเอียด (โฟม) ซึ่งอาจมีข้อดีในบางกรณี เช่น

การสัมผัสกับผนังหลอดเลือด โฟมสามารถแทนที่เลือดในหลอดเลือดได้ดีกว่า ทำให้ยาได้สัมผัสกับผนังหลอดเลือดโดยตรงและสม่ำเสมอ

การรักษาเส้นเลือดขนาดกลาง เหมาะสำหรับฉีดเส้นเลือดขอดขนาดเล็กถึงขนาดกลาง

การกระจายตัวของยา อาจสามารถรักษาพื้นที่ได้กว้างกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบน้ำในปริมาณยาที่เท่ากัน

การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยวิธีนี้ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว เพราะใช้เวลาทำหัตถการเพียงประมาณ 15-30 นาทีต่อครั้ง สามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ โดยเส้นเลือดที่ถูกฉีดจะค่อยๆ จางลงและยุบไปในระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน โอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของเส้นเลือดเส้นเดิมที่รักษาไปแล้วมีน้อย หากดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างดี เช่น หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ หรือยกของหนักในช่วงแรกหลังทำ หมั่นออกกำลังกายด้วยการเดินเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และแม้ว่าจะสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่หากยังมีพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดเส้นเลือดขอด ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น และอาจสวมถุงน่องเส้นเลือดขอดตามที่แพทย์แนะนำ

วิดีโอ ฉีดสลายเส้นเลือดขอด ดียังไง

อีกหนึ่งเคสรีวิว (ตัวอย่าง) สำหรับคนไข้ที่มีอาการเส้นเลือดขอดและต้องการทำการรักษา แต่ไม่สะดวกนอนพักฟื้นนาน เช่น คุณทิพย์ ที่เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้เคยปรึกษาที่โรงพยาบาลและแพทย์แนะนำให้ผ่าตัด แต่ไม่สะดวกเนื่องจากต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน จนมาพบวิธีการรักษาแบบฉีดสลาย จึงตัดสินใจเดินทางมารักษากับคุณหมอโบว์ ที่เดอควีนส์ คลินิก สาขาชลบุรี หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องนอนพักฟื้นที่คลินิก ทั้งนี้แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองเพื่อให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปัญหาเส้นเลือดขอด แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงในระยะเริ่มต้น แต่อาจลุกลามถึงระดับรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากเส้นเลือดขอดสามารถแบ่งความรุนแรงได้ถึง 6 ระดับ (ตาม CEAP classification) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวและสุขภาพขาได้ ลักษณะของเส้นเลือดขอดในแต่ละระยะมีดังนี้

ระยะที่ 1 (C1) เป็นระยะเริ่มต้น โดยเราสามารถมองเห็นลักษณะเส้นเลือดเป็นเส้นฝอยเล็กๆ สีแดงหรือม่วง คล้ายใยแมงมุม (Spider Veins หรือ Telangiectasias) ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 3 มม. ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการปวด สามารถรักษาได้ผลดีด้วยการฉีดสลายแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

ระยะที่ 2 (C2) เส้นเลือดขอดเริ่มมีลักษณะปูดนูน มองเห็นเป็นเส้นเลือดเขียวๆ ขดไปมาคล้ายตัวหนอน มีขนาดใหญ่กว่า 3 มม. ในระยะนี้ คนไข้บางรายอาจพบอาการเมื่อยล้า ปวด หรือเป็นตะคริวในเวลากลางคืน

ระยะที่ 3 (C3) มีลักษณะเส้นเลือดปูด เขียว โป่งพอง ร่วมกับมีอาการขาบวม (Edema) มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเย็นหรือหลังยืนนานๆ อาจมีอาการปวดขามากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต บางรายอาจมีอาการปวดตึง ขาชา เวลาเดินหรือขับรถนานๆ ระยะนี้ยังสามารถรักษาด้วยการฉีดสลายได้ในหลายกรณี

ระยะที่ 4 (C4) เป็นระยะที่สีผิวบริเวณขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีสีคล้ำขึ้น (Hyperpigmentation) ผิวหนังอักเสบ (Eczema) หรือผิวหนังแข็งด้าน (Lipodermatosclerosis) หากปล่อยไว้นานอาจเกิดแผล และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

ระยะที่ 5 (C5) เคยมีแผลหลอดเลือดดำ (Venous Ulcer) แต่แผลหายแล้ว แต่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังอื่นๆ ร่วมด้วย ในระยะนี้การฉีดสลายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ และอาจต้องพิจารณาวิธีอื่นร่วมด้วยหรือแทนที่

ระยะที่ 6 (C6) เกิดแผลหลอดเลือดดำที่ยังเปิดอยู่ (Active Venous Ulcer) มักพบบริเวณข้อเท้า เป็นแผลเรื้อรังที่เกิดจากการเป็นเส้นเลือดขอดเป็นเวลานาน อาจมีผิวหนังแตก ดำคล้ำ ขาบวม ซึ่งรักษาได้ยาก และมักต้องใช้วิธีการรักษาที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การผ่าตัด หรือการดูแลแผลเฉพาะทาง

กราฟิก 6 ระยะ เส้นเลือดขอด รักษาถูกวิธีลดโอกาสลุกลาม

ถึงแม้ว่าการฉีดสลายเส้นเลือดขอดจะเป็นวิธีการรักษาที่สะดวกสำหรับคนไข้จำนวนมาก แต่ก็มีข้อจำกัด การฉีดสลายเส้นเลือดขอดจะให้ผลลัพธ์ดีในการรักษาเส้นเลือดขอดระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง คือระยะที่ยังเป็นเส้นเลือดฝอย (Spider Veins, C1) หรือเส้นเลือดขอดที่ปูดนูนขนาดเล็กถึงปานกลาง (C2-C3 บางราย) เมื่อทำการฉีดสลายแล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบริเวณขาอย่างชัดเจน แต่ในกรณีที่เป็นเส้นเลือดขอดระยะรุนแรง หรือเส้นเลือดขอดมีขนาดใหญ่มากเกินไป (เช่น C4-C6 หรือ C2-C3 บางรายที่มีขนาดใหญ่มาก) แพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด หรือการใช้เลเซอร์หลอดเลือด (EVLA/RFA) เพราะการฉีดสลายอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

วิดีโอ เส้นเลือดขอด เกิดจากอะไร

ยาสลายเส้นเลือดขอด (Sclerosants) ที่ใช้ทางการแพทย์ มีหลายกลุ่ม ดังนี้

1. Detergent Sclerosants เป็นกลุ่มยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้คือ Polidocanol (ชื่อการค้า เช่น Aethoxysklerol®) และ Sodium Tetradecyl Sulphate (STS) หลักการทำงานคือตัวยาจะเข้าไปทำลายเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด (Endothelium) ทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบ บวม และตีบตันในที่สุด ร่างกายจะค่อยๆ กำจัดเส้นเลือดที่เสียหายนั้นไป สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำในเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ส่วนเส้นเลือดขอดที่โป่งพองจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์หรือนานกว่านั้นจึงจะยุบและจางหายไป ตัวยาชนิดนี้แพทย์มักนำมาเตรียมเป็นรูปแบบโฟมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาในบางกรณี
2. Chemical Irritants ตัวยาในกลุ่มนี้ เช่น Glycerin (มักผสมกับสารอื่น) ออกฤทธิ์โดยการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผนังหลอดเลือด แต่กลไกการทำลายอาจแตกต่างจากกลุ่มแรก ข้อดีคืออาจเกิดรอยดำหลังฉีดน้อยกว่า แต่ประสิทธิภาพโดยรวมอาจไม่เท่ากลุ่ม Detergents จึงอาจได้รับความนิยมน้อยกว่า
3. Hyperosmotic Agents ตัวยาในกลุ่มนี้คือสารละลายที่มีความเข้มข้นสูง เช่น Hypertonic Saline (น้ำเกลือเข้มข้น) หรือ Hypertonic Saline ผสมกับ Dextrose (น้ำตาล) สารเหล่านี้จะดึงน้ำออกจากเซลล์ผนังหลอดเลือด ทำให้เซลล์เสียหายและหลอดเลือดฝ่อไป ข้อเสียคือยาอาจถูกเจือจางด้วยเลือดได้เร็ว ทำให้ต้องฉีดหลายครั้งและอาจไม่เหมาะกับเส้นเลือดขนาดใหญ่ อาจรู้สึกแสบหรือปวดขณะฉีดมากกว่ายากลุ่มอื่น และมีโอกาสเกิดรอยแผลที่ผิวหนังได้หากยารั่วออกนอกหลอดเลือด

จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์ทางการแพทย์ พบว่าทั้งการฉีดสลายด้วยยาสูตรน้ำ (Liquid) และสูตรโฟม (Foam) สามารถช่วยรักษาเส้นเลือดขอดได้ โดยประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ ขนาดและชนิดของเส้นเลือดขอด รวมถึงชนิดและความเข้มข้นของยาที่ใช้

สูตรน้ำ (Liquid Sclerosant) เหมาะกับเส้นเลือดฝอยที่มีขนาดเล็กมากๆ หรือเส้นเลือดใยแมงมุม (Telangiectasias) เนื่องจากน้ำยาจะมีความหนืดต่ำ สามารถไหลเข้าสู่เส้นเลือดขนาดเล็กได้ดี แต่ในเส้นเลือดที่ใหญ่ขึ้น น้ำยาอาจถูกเจือจางด้วยเลือดได้ง่าย ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

สูตรโฟม (Foam Sclerosant) คือการนำยา Sclerosant (มักเป็นกลุ่ม Detergent) มาผสมกับอากาศหรือแก๊สทางการแพทย์ในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้เกิดฟองละเอียด โฟมมีข้อดีคือสามารถแทนที่เลือดในหลอดเลือดได้ดีกว่า ทำให้ยาได้สัมผัสกับผนังหลอดเลือดโดยตรงและสม่ำเสมอมากขึ้น และอาจสามารถรักษาพื้นที่ได้กว้างกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบน้ำในปริมาณยาที่เท่ากัน จึงมักใช้กับเส้นเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย (Reticular veins หรือ Small varicose veins) หรือในบางกรณีที่ต้องการให้ยากระจายตัวได้ดีขึ้น

วิดีโอ รีวิว ฉีดสลายเส้นเลือดขอดคุณแง่

สูตรโฟมจึงอาจเหมาะกับการรักษาเส้นเลือดขอดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง รวมถึงเส้นเลือดขอดที่มีลักษณะเขียว ปูดนูน (ในระดับที่เหมาะสม) ผู้รับการรักษาสามารถเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำในครั้งแรกๆ โดยเส้นเลือดจะค่อยๆ ยุบและสลายไปในที่สุดภายใน 2-4 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น สูตรโฟมจึงเป็นทางเลือกที่แพทย์มักพิจารณาเนื่องจากอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา ใช้เวลาทำไม่นาน (ประมาณ 15-30 นาที) และส่วนใหญ่ไม่ต้องพักฟื้น

วิดีโอ ยาฉีดสลายเส้นเลือดขอด สูตรน้ำ กับ สูตรโฟม แตกต่างกันอย่างไร

การฉีดสลายเส้นเลือดขอด โดยเฉพาะเมื่อใช้เทคนิคที่เหมาะสม เช่น โฟม Sclerosant เป็นวิธีการรักษาที่สะดวกและเจ็บน้อย ผู้รับการรักษาส่วนใหญ่สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ โดยเส้นเลือดจะค่อยๆ จางลงและยุบไปเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและส่งเสริมกระบวนการกำจัดเส้นเลือดที่ฝ่อไป ควรออกกำลังกายด้วยการเดินบ่อยๆ ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลให้เป็นเส้นเลือดขอด เช่น การยืนนานๆ หรือยกของหนักบ่อยๆ รวมถึงหลังทำการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยแพทย์จะมีการติดตามผลหลังการรักษาสม่ำเสมอ

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษามีประสิทธิภาพ การดูแลตัวเองหลังทำก็เป็นสิ่งสำคัญ แพทย์จะมีการติดตามผลการรักษาของคนไข้เสมอ นอกจากต้องพบแพทย์ตามนัดหมายแล้ว ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตัวดังนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเส้นเลือดขอดซ้ำอีกครั้ง ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงการยืนหรือยกของหนัก หลังฉีดสลายเส้นเลือดขอดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการยืนเป็นเวลานาน หรือยกของหนักอย่างน้อย 3-7 วัน หลังจากนั้น พยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ทุกครึ่งชั่วโมง หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนเกร็งตัวในท่าเดิมนานๆ
2. สวมถุงน่องทางการแพทย์ หรือถุงน่องเส้นเลือดขอด ตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากถุงน่องจะช่วยกดเส้นเลือดที่ฉีดไว้และส่งเสริมการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดซ้ำ อีกทั้งยังช่วยประคองกล้ามเนื้อและเส้นเลือดบริเวณนั้นได้ดี ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นเลือดขอด โดยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กอาจใช้เวลา 1-3 วัน ส่วนเส้นเลือดขอดขนาดกลางควรใส่อย่างน้อย 7 วันขึ้นไป หรือนานกว่านั้นตามแพทย์สั่ง
3. หมั่นออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวัน เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและช่วยให้ร่างกายกำจัดเส้นเลือดที่ฝ่อไปได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ขามีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เลือดไหลเวียนสะดวก
4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เช่น สวมชุดรัดแน่น หรือคับเกินไป
5. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เนื่องจากการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะทำให้แรงดันในเส้นเลือดดำสูงขึ้น
6. ยกขาสูง ระหว่างวันควรหาเวลาพักขาโดยยกขาพาดสูง ตอนกลางคืนควรนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจ
7. ขยับร่างกาย ระหว่างวัน หาโอกาสขยับร่างกายบ่อยๆ หรืออาจบีบนวดขาเบาๆ (ปรึกษาแพทย์ก่อนนวดบริเวณที่เพิ่งฉีด)
8. ทานอาหารสุขภาพ ที่ช่วยบำรุงหลอดเลือด เช่น ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง (ส้ม ฝรั่ง เบอร์รี่) ซึ่งช่วยสร้างคอลลาเจนในผนังหลอดเลือด หรืออาหารที่มีใยอาหารสูง (ธัญพืช ผักใบเขียว) เพื่อลดโอกาสท้องผูก
9. ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

เดอควีนส์ คลินิก คลินิกความงามเพชรบุรี และคลินิกความงามชลบุรี มีบริการฉีดสลายเส้นเลือดขอด ดูแลโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ มีความชำนาญการในด้านการฉีดสลายและดูแลเส้นเลือดขอด นำทีมโดยคุณหมอโบว์ ซึ่งมีประสบการณ์ดูแลคนไข้มาแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งคนไข้ในประเทศและจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา เดนมาร์ก ญี่ปุ่น คนไข้หลายท่านต่างให้ความเชื่อมั่นและพึงพอใจในผลการรักษา

วิดีโอ รีวิว คุณแอน จากเดนมาร์ก มารักษาเส้นเลือดขอดเพราะไม่มั่นใจเวลาใส่ขาสั้น

นอกจากนี้ คุณหมอโบว์ยังให้คำแนะนำวิธีการดูแลตัวเองแก่คนไข้ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงแนะนำวิธีการสวมถุงน่องเส้นเลือดขอดที่ถูกต้อง พร้อมวิธีเก็บรักษา เพื่อสุขภาพขาที่ดีในระยะยาว จึงมีการติดตามผลการรักษากับคนไข้เสมอ …เพราะทุกปัญหาของคนไข้ เราเข้าใจเป็นอย่างดี จึงอยากใส่ใจแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้คลี่คลายลง… สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเอง

วิดีโอ รวมรีวิว ความประทับใจคนไข้ฉีดสลายเส้นเลือดขอด กับคุณหมอโบว์