
Radiesse Plus มีลักษณะคล้ายกับฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แต่ไม่ใช่สารชนิดเดียวกันกับฟิลเลอร์ (Hyaluronic acid) เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นสาร CaHA ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ฉีดสร้างกรอบหน้าและเติมโครงสร้างผิว จึงเน้นในด้านการกระตุ้นคอลลาเจน สร้าง Jawline ให้คมชัด และทำให้ใบหน้ามีมิติ ส่วนฟิลเลอร์จะเป็นสารเติมเต็มที่เน้นแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่บกพร่องของใบหน้า เช่น ใต้ตาลึก หรือตาคล้ำโทรม โดยจะเข้ามาช่วยเติมเต็มผิวให้อิ่มเอิบและเรียบเนียน ซึ่งช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ทั้งสองหัตถการอาจมีจุดที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดกันบ่อยๆ ว่าเป็นสารชนิดเดียวกัน และต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไร สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้า อยากหน้าเป๊ะ แต่ไม่อยากเป๊ะผิดจุด ก่อนเลือกฉีดสารเติมเต็มชนิดไหน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เพราะอาจมีตัวเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์กว่า บทความนี้จึงจะช่วยให้เราเข้าใจชัดเจนมากขึ้น ระหว่าง Radiesse Plus กับฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองได้
โปรแกรม Radiesse Plus คืออะไร
Radiesse Plus นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับ Jawline ให้คม เห็นกรอบหน้าชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น เพราะ Radiesse Plus เป็นสารที่ผลิตจาก CaHA (ไมโครสเฟียร์เจลแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์) มีลักษณะคล้ายกับฟิลเลอร์เนื้อแข็ง สามารถนำมาฉีดเพื่อเสริมโครงสร้างบริเวณกระดูก และใช้เพื่อเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง (Biostimulator) โดยนิยมฉีดบริเวณกรามและกรอบหน้า ซึ่งแพทย์สามารถฉีดในชั้นผิวหนังชั้นลึก หรือชั้นใต้ผิวหนังตามแต่ปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้
Radiesse Plus มีความปลอดภัย เพราะผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถึง 3 แห่ง ได้แก่ US FDA ของสหรัฐอเมริกา CE Mark ของสหภาพยุโรป และ TH FDA ของประเทศไทย
ส่วนประกอบหลักของ Radiesse Plus
- สาร CaHA หรือไมโครสเฟียร์เจลแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์
- เป็นสารออกฤทธิ์หลักที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยผ่านกระบวนการธรรมชาติในชั้นผิว
- โซเดียมคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส หรือ CMC gel
- เป็นสารนำพาในรูปแบบเจลที่ช่วยเพิ่มความหนืด ทำให้ตัวยามีความคงตัวสูง ไม่กระจายตัว เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวจึงสามารถคงรูปได้ดี ไม่เกิดการขยับหรือเคลื่อนที่เอง
- ยาชา (Lidocaine) 0.3%
- ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างการฉีด ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น
หลักการทำงานของ Radiesse Plus
- ฉีดปรับโครงหน้า เติมเต็มผิวหลังทำ
- Radiesse Plus เป็นสารที่นิยมนำมาใช้เพื่อฉีดปรับโครงหน้า ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สร้างกรอบหน้าและเติมโครงสร้างผิว เมื่อทำการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังแล้ว เจล (CMC gel) จะเข้าไปเสริมโครงสร้างผิว ทำให้เกิดการเติมเต็มและผิวดูเรียบเนียนขึ้นหลังทำ ตัวยามีความหนืดและความยืดหยุ่นสูง จึงสามารถคงรูปได้ดี ไม่มีการเคลื่อนตัวหรือกระจายตัว และเจลนี้จะค่อยๆ สลายไปตามระบบของร่างกาย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- เมื่อเจล (CMC gel) เริ่มสลาย สาร CaHA จะเริ่มทำงาน โดยกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้สร้างโครงสร้างของผิวหนังที่มีความหนาแน่นสูงขึ้น เกิดเป็นเส้นใยตาข่ายคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ เพื่อยกผิวให้กลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน จึงทำให้ผิวดูแน่นกระชับและฟื้นฟูจากภายใน ทำให้ผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปลอดภัย สลายได้ แต่คอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะยังคงอยู่
- ท้ายที่สุดแล้วเจล (CMC gel) และสาร CaHA จะสลายไปเองตามธรรมชาติด้วยระบบปกติของร่างกาย แต่คอลลาเจนและอีลาสตินที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะยังคงอยู่ ซึ่งทำให้ผิวกระชับและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
ข้อดีของโปรแกรม Radiesse Plus
- ปรับความคมชัดให้กับโครงสร้างใบหน้า สร้างกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว เกิดเป็นเส้นใยตาข่ายพยุงผิวขึ้นใหม่
- ผิวมีโครงสร้างแข็งแรง ใบหน้าเฟิร์มกระชับ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- กรอบหน้าชัด ใบหน้าดูเรียว มีมิติ โดยที่ไม่ต้องแต่งหน้าลงไฮไลต์
- สันกรามดูคม เป็นรูปทรง เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการให้ใบหน้าดูคมเข้ม
- ช่วยให้ร่องลึก ขมับตอบ หรือใต้ตาหย่อนคล้อยดูดีขึ้น ใบหน้าดูเด็กขึ้น
Radiesse Plus ฉีดบริเวณจุดไหนได้บ้าง
- ร่องแก้ม ลดความลึกของแก้ม ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ และดูสดใสขึ้น
- แก้ม ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และเติมเต็มโครงสร้างให้ใบหน้าดูสุขภาพดี
- ขมับ แก้ปัญหาขมับตอบ เพิ่มความคมชัดให้แก่โครงหน้า
- กรอบหน้า (Jawline) ฉีดปรับโครงหน้า สร้างแนวกรอบหน้าให้ชัดเจน กระชับขึ้น
- ร่องน้ำหมาก ลดริ้วรอยบริเวณมุมปากจนถึงคาง ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส เรียบเนียน
- แนวกราม ขากรรไกร ยกระชับ สร้างความคมชัดให้แก่ใบหน้า โครงสร้างหน้าชัดเจน
ผลลัพธ์หลังทำ Radiesse Plus
สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างได้หลังทำ เช่น บริเวณโหนกแก้ม ไลน์กราม กรอบหน้า หรือการปรับรูปหน้า เนื่องจากเนื้อเจลของตัวยาจะเข้าไปทำหน้าที่คงสภาพอยู่ใต้ผิว เมื่อระยะเวลาผ่านไป สาร CaHA จะเริ่มเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว เพื่อยกผิวให้กลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน โดยผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นภายในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์หลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นาน 12 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวในแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหลังทำ
โปรแกรมฟิลเลอร์ คืออะไร
สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์เราตามธรรมชาติ มักนำมาใช้เพื่อทดแทนสารไฮยาลูรอนิกที่ร่างกายผลิตน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวบางลงและเกิดริ้วรอยต่างๆ เมื่อฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังบริเวณที่มีปัญหาผิว เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หรือร่องลึกบนขมับ จะทำให้บริเวณนั้นดูตื้นขึ้น ผิวมีความเต่งตึง เรียบเนียน นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังเป็นสารที่มีความคงตัวสูง สามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดี ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น จึงนิยมนำมาฉีดเพื่อใช้แก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก หรือปรับโครงสร้างใบหน้าตามบริเวณจุดต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์จมูก หรือฟิลเลอร์บริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งเราสามารถปรับแต่งสัดส่วนเหล่านี้ให้ฟูสวย อิ่มเอิบขึ้นตามที่เราต้องการได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น ผิวดูอิ่มฟู เต่งตึงขึ้น มีความปลอดภัยสูง เพราะร่างกายสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ไทย ฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้ประมาณ 6–24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และบริเวณที่ฉีด เมื่อฟิลเลอร์ได้มีการสลายตัวไปแล้ว เราสามารถกลับมาเติมใหม่ได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตกค้างบนร่างกาย
ข้อดีของโปรแกรมฟิลเลอร์
- ลดริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตา หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ปรับรูปหน้า สามารถเติมเต็มในบริเวณต่างๆ ที่มีปัญหา เช่น ขมับตอบ คางสั้น หน้าผากบุ๋ม ริมฝีปากแบน เพื่อให้ใบหน้าดูสมส่วน ได้รูปมากขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ขึ้น
- แก้ปัญหาเฉพาะจุดได้ เช่น ฉีดใต้ตาเพื่อลดรอยคล้ำ หรือตาโหล ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส
- เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำ ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน ทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ปรับแก้ไขได้ หากไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ (HA) ออกได้โดยไม่เป็นอันตราย
- มีความปลอดภัย เพราะได้รับการรับรองจาก อย. สลายเองได้ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
โปรแกรมฟิลเลอร์ ฉีดบริเวณจุดไหนได้บ้าง
- ขมับ เติมขมับตอบ ขมับที่ยุบตัวลงเพราะวัย ให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ ได้สัดส่วน
- หน้าผาก แก้ไขหน้าผากแบน หรือรอยบุ๋ม ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น
- ใต้ตา แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำ โทรม ร่องลึก และถุงใต้ตา
- ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ทำให้ร่องลึกดูตื้นขึ้น
- แก้ม เติมเต็มแก้มตอบ ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ริมฝีปาก เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม ยกมุมปาก และแก้ไขริมฝีปากไม่ได้รูป
- คาง เสริมคาง แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด ปรับหน้าให้เรียว ดู V-Shape ขึ้น
- คอ ช่วยลดรอยย่น และทำให้คอดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น
ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรมฟิลเลอร์
ในการฉีดฟิลเลอร์ เราจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำเสร็จ แต่ช่วงแรกอาจจะมีอาการบวม และจะลดลงไปเองในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะเป็นการให้เวลาฟิลเลอร์ได้ผสานรวมกับชั้นผิวให้เรียบเนียน โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6–24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และการดูแลตัวเองหลังทำ เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อนจัด และควรดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น เพราะฟิลเลอร์มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี จะยิ่งช่วยให้ผิวอิ่มฟู อ่อนเยาว์ และสุขภาพดีขึ้น
เทียบชัด Radiesse Plus กับฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร
คุณสมบัติ | โปรแกรม Radiesse Plus | โปรแกรมฟิลเลอร์ |
---|---|---|
ส่วนประกอบหลัก | สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Biostimulator) | ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) อุ้มน้ำและเติมเต็มร่องลึก |
ผลลัพธ์คงอยู่ | นาน 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง | นาน 6–24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และบริเวณที่ฉีด |
ความปลอดภัย | มีความปลอดภัย เข้ากันได้กับร่างกาย และสลายไปเองตามธรรมชาติ | เป็นสารที่พบในร่างกาย สลายเองได้ ไม่มีสารตกค้าง |
การแก้ปัญหาผิว | เน้นด้านโครงสร้าง Jawline คมชัด ใบหน้าเฟิร์มกระชับ เรียบเนียน | เน้นด้านริ้วรอยร่องลึก เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ปาก |
จุดเด่น | มีความคงตัวสูง ช่วยสร้างเส้นใยตาข่ายพยุงผิวใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง ยกกระชับได้ดี | เป็นสารเติมเต็ม อุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื้น เรียบเนียน ใบหน้าดูสุขภาพดีขึ้น |
บริเวณที่ฉีด | ฉีดปรับโครงหน้า ร่องแก้ม แก้ม ขมับ กรอบหน้า (Jawline) ร่องน้ำหมาก แนวกราม และขากรรไกร | เติมเต็มขมับ หน้าผาก ใต้ตา ร่องแก้ม แก้ม ริมฝีปาก คาง คอ หลังมือ และบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ |
การสลาย | ไม่สามารถฉีดสลายได้ทันที แต่จะสลายไปเองตามกระบวนการปกติของร่างกาย | สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase หากไม่พอใจในผลลัพธ์ |
อยากเพิ่มความมั่นใจ เลือกทำโปรแกรมไหนดี
ใบหน้าแต่ละคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง หรือมีปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอย ร่องแก้ม หรือรูปหน้าที่ไม่สมดุล สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิว ปัญหาใบหน้าแต่ละจุด และเลือกโปรแกรมที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบ สมส่วน หรือการปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape มี Jawline คมชัด และเน้นงานผิว ลดริ้วรอย ผิวฉ่ำโกลว์ เนียนใสดูอ่อนเยาว์ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
สำหรับใครที่มีปัญหาผิว และไม่มั่นใจว่าควรเริ่มดูแลผิวหน้าจากตรงไหนดี สามารถสอบถามฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือส่งภาพให้แพทย์ประเมินเบื้องต้นได้ที่ Line: @dequeensclinic หมอตอบเอง และสามารถเข้า Walk in ได้ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ เดอควีนส์ คลินิก สาขาชลบุรี และเดอควีนส์ คลินิก สาขาเพชรบุรี