ยืนหนึ่งเรื่องหน้าเด็ก

English (United Kingdom)English (United Kingdom)
ภาษาไทย (ไทย)ภาษาไทย (ไทย)
English (United Kingdom)English (United Kingdom)

ฉีดฝ้าหรือเลเซอร์ฝ้า ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน? รู้ก่อนเลือกให้เหมาะกับผิวคุณ

ฉีดฝ้าหรือเลเซอร์ฝ้า ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน? รู้ก่อนเลือกให้เหมาะกับผิวคุณ

ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่กวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่แดดแรงตลอดปี ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและเกิดจุดด่างดำได้ง่าย หากลองค้นหาคำว่าวิธีรักษาฝ้า จะพบว่ามีหลากหลายวิธีในการช่วยรักษาฝ้า ไม่ว่าจะทาครีมหรือทำทรีตเมนต์ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากก็คือ ฉีดฝ้าและเลเซอร์ฝ้านั่นเอง ทั้งสองวิธีนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้ววิธีไหนจะช่วยรักษาฝ้าได้ดีกว่ากัน เราจะพาไปหาคำตอบเพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่ตรงจุดที่สุดค่ะ

ฉีดฝ้า คืออะไร?

การฉีดฝ้า หรือที่นิยมเรียกกันว่า การฉีดเมโสฝ้า (Mesotherapy for Melasma) เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี เข้าสู่ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยตรง เพื่อให้สารเหล่านี้ไปออกฤทธิ์ลดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสี ทำให้การสร้างเม็ดสีเมลานินลดลง ส่งผลให้ฝ้าดูจางลง นอกจากนี้ ในตัวยาอาจมีสารบำรุงอื่นๆ ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นร่วมด้วย

เลเซอร์ฝ้า คืออะไร?

เลเซอร์ฝ้า คือการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นจำเพาะเจาะจงกับเม็ดสีเมลานิน ยิงลงไปที่บริเวณที่มีปัญหาฝ้า โดยไม่มีการฉีดตัวยาใดๆ เมื่อเม็ดสีดูดซับพลังงานเลเซอร์เข้าไป จะเกิดความร้อนสูงและแตกตัวออกเป็นอนุภาคเล็กๆ จากนั้นเม็ดเลือดขาวในร่างกายจะค่อยๆ เข้ามากำจัดเม็ดสีที่แตกตัวนี้ออกไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ ทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลง สีผิวดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น และเลเซอร์บางชนิดยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย เลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในการรักษาฝ้าปัจจุบันคือ Pico Laser ซึ่งมีหลายยี่ห้อในท้องตลาด

ฉีดฝ้าและเลเซอร์ฝ้าช่วยรักษาฝ้าได้อย่างไร

  • การฉีดฝ้า (เมโสฝ้า) เป็นการนำส่งสารออกฤทธิ์เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เพื่อไปยับยั้งหรือลดกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้การผลิตเม็ดสีใหม่ลดลง ส่งผลให้รอยฝ้าค่อยๆ ดูจางลงอย่างสังเกตได้ การรักษาด้วยวิธีนี้มักต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยอาจฉีดซ้ำทุก 1-2 สัปดาห์ในช่วงแรก เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยทั่วไปอาจเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังการทำประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดฝ้าอาจอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน และไม่สามารถกำจัดฝ้าให้หายขาดถาวรได้ จำเป็นต้องมีการรักษาต่อเนื่องหรือควบคู่กับวิธีอื่น
  • การทำเลเซอร์ฝ้า (เช่น Pico Laser) เป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่สะสมอยู่ในผิว ทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ โดยพยายามให้ส่งผลกระทบต่อเซลล์ผิวรอบข้างน้อยที่สุด เม็ดสีที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ถูกร่างกายกำจัดออกไป ทำให้ฝ้าค่อยๆ จางลงและสีผิวดูสม่ำเสมอยิ่งขึ้น อาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการทำครั้งแรกๆ และหากรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ประมาณ 3-5 ครั้งหรือมากกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฝ้าและการตอบสนอง) ฝ้าจะดูจางลงอย่างชัดเจน อีกทั้งยังอาจช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและแลดูกระจ่างใสขึ้น

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การฉีดฝ้า (เมโสฝ้า) อาจพบอาการข้างเคียงชั่วคราว เช่น

  • อาการบวม หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • อาการคัน หรือรู้สึกแสบเล็กน้อยจากตัวยา
  • ผื่นแดง ซึ่งมักหายไปเองในเวลาไม่นาน
  • ในบางรายอาจเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง รอยดำหลังฉีด หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากทำในสถานที่ไม่สะอาด ปลอดเชื้อ
การทำเลเซอร์ฝ้า อาจเกิดอาการข้างเคียงจากพลังงานเลเซอร์ เช่น
  • ผิวแดงและอาจบวมเล็กน้อยหลังทำ
  • อาจเกิดสะเก็ดบางๆ บนผิว (ขึ้นอยู่กับชนิดเลเซอร์และการตั้งค่าพลังงาน)
  • ผิวอาจแห้งลอกได้ชั่วคราว
  • ในบางกรณี โดยเฉพาะหากไม่หลีกเลี่ยงแสงแดด อาจเกิดปัญหาสีผิวเข้มขึ้นชั่วคราว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation - PIH)
โดยทั่วไป อาการข้างเคียงเหล่านี้มักไม่รุนแรงและจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วันถึง 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีอาการรุนแรงหรือผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ฉีดฝ้าหรือเลเซอร์ แบบไหนเหมาะกับคุณ?

การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้า ความรุนแรง และการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีแนวทางเบื้องต้นดังนี้

  • หากคุณมี ฝ้าตื้น หรือฝ้าที่เพิ่งเริ่มเป็น การ ฉีดฝ้า (เมโสฝ้า) อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและฟื้นฟูผิวได้
  • หากคุณมี ฝ้าลึก ฝ้าหนา หรือฝ้าฝังแน่น การทำ เลเซอร์ฝ้า (เช่น Pico Laser) อาจเหมาะสมกว่า เพราะสามารถส่งพลังงานลงไปทำลายเม็ดสีในชั้นผิวที่ลึกกว่าได้
  • ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ ทำควบคู่กัน ทั้งการฉีดฝ้าและเลเซอร์ฝ้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

เลือกคลินิกที่ไหนดีในการฉีดฝ้าหรือเลเซอร์ฝ้า

การเลือกคลินิกที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฝ้าหรือเลเซอร์ฝ้า เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือมีประสบการณ์ในการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์และเมโส คอยให้คำปรึกษา ประเมิน และทำการรักษาด้วยตนเอง
  • เทคโนโลยีและเครื่องมือ มีเครื่องเลเซอร์ (เช่น Pico Laser) หรือตัวยาเมโสที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองความปลอดภัย
  • มาตรฐานความสะอาด คลินิกมีมาตรการรักษาความสะอาดที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและผลข้างเคียงอื่นๆ
  • การให้ข้อมูลและการดูแล คลินิกมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการรักษา ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ และมีคำแนะนำในการดูแลผิวทั้งก่อนและหลังการรักษาอย่างละเอียด

หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย และมีแพทย์คอยดูแล De Queens Clinic คลินิกรักษาฝ้าชลบุรี คลินิกรักษาฝ้าเพชรบุรี เรามีบริการทำ โปรแกรม Meso สะกิดหน้าใส และ Pico Laser เพื่อช่วยดูแลปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ฟื้นฟูผิวหน้าของคุณให้กลับมาดูกระจ่างใส เรียบเนียน ลดเลือนฝ้ากระจุดด่างดำ หากต้องการสอบถามข้อมูล หรือปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Line: @dequeensclinic เรายินดีให้บริการค่ะ